ผลของตักวา (ความยำเกรงพระเจ้า) ในวจนะของอิมามญะวาด (อ.)
ผลของตักวา (ความยำเกรงพระเจ้า) ในวจนะของอิมามญะวาด (อ.)

"ตักวา" (ความยำเกรงพระเจ้า) คืออัญมณีที่ล้ำค่าและเป็นเสหมือนเคมี (กิมียาอ์) หรือศิลานักปราชญ์ (2) ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนบุคคลและสังคม ชีวิตทางโลกและชีวิตทางปรโลกของมนุษย์ และบุคคลผู้มีความยำเกรง (ตักวา) ต่อพระผู้เป็นเจ้าและปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามบทบัญญัติของศาสนานั้น เขาจะได้รับประโยชน์จากพรและความจำเริญ (บะรอกัต) ที่มากมายของมัน

ท่านอิมามญะวาด (อ.) กล่าวว่า :

اِنَّ اللهَ عَزّوجلّ یَقی بِالتَّقوی عَنِ العَبدِ ما عَزُبَ عَنهُ عَقلُهُ، ‌وَ یُجلی بِالتَّقوی عَنهُ عَماهُ وَ جَهلَه

"แท้จริงอัลลอฮ์ผู้ทรงเกริกเกียรติเกรียงไกรจะทรงปกป้องบ่าว (ของพระองค์) ด้วยสื่อความยำเกรง (ตักวา) จากสิ่งที่สติปัญญาของเขาไปไม่ถึง และพระองค์จะทรงขจัดความมืดบอดและความไม่รู้ด้วยสื่อความยำเกรง" (1)

    "ตักวา" (ความยำเกรงพระเจ้า) คืออัญมณีที่ล้ำค่าและเป็นเสหมือนเคมี (กิมียาอ์) หรือศิลานักปราชญ์ (2) ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตส่วนบุคคลและสังคม ชีวิตทางโลกและชีวิตทางปรโลกของมนุษย์ และบุคคลผู้มีความยำเกรง (ตักวา) ต่อพระผู้เป็นเจ้าและปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัดตามบทบัญญัติของศาสนานั้น เขาจะได้รับประโยชน์จากพรและความจำเริญ (บะรอกัต) ที่มากมายของมัน

    ตามสำนวนของโองการต่างๆ ของคัมภีร์อัลกุรอานและริวายะฮ์ (คำรายงาน) ตักวา (ความยำเกรงพระเจ้า) นั้นคือแสงสว่าง (นูร) การชี้นำ (ฮิดาฮะฮ์) ป้อมปราการที่แข็งแกร่ง (ฮิศน์ ฮะศีน ) โล่ป้องกัน และสิ่งกีดขวางการรุกล้ำของซาตาน (ชัยฏอน) ....

    แม้ว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงประทาน "สติปัญญา" ให้เป็นเครื่องนำทางและเป็นแสงสว่างให้กับเส้นทางของเรา แต่สติปัญญาก็ไม่สามารถค้นพบและรับรู้ถึงข้อเท็จจริงทั้งหมดได้และไม่ทำให้เราไร้ซึ่งความต้องต่อการนำทางจากพระผู้เป็นเจ้าได้

    ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสูงส่ง จึงทรงตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานว่า :

وَاتَّقُوا اللَّهَ ۖ وَيُعَلِّمُكُمُ اللَّهُ

"และพวกเจ้าจงยำเกรงอัลลอฮ์ แล้วอัลลอฮ์จะทรงสอนพวกเจ้า" (3)

    พระองค์ยังทรงตรัสอีกว่า :

يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا إِن تَتَّقُوا اللَّهَ يَجْعَل لَّكُمْ فُرْقَانًا

 “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย หากพวกเจ้ายำเกรงอัลลอฮ์ พระองค์จะทรงประทานเครื่องจำแนกแก่พวกเจ้า” (4)

     “ฟุรกอน” คือพลังและความเข้าใจที่ถ่องแท้ (บะซีเราะฮ์) ที่ทำให้เราแยกแยะระหว่างถูกและผิด สัจธรรมและความเท็จ เพื่อไม่ให้เราหลงทาง นี่คือประเด็นเดียวกับที่ถูกกล่าวไว้ในวจนะของท่านอิมามญะวาด (อ.) นั่นก็คือ หากมีสิ่งใดถูกซ่อนไว้จากสติปัญญาของมนุษย์และมนุษย์ไม่สามารถได้รับการชี้นำด้วยเหตุผลทางปัญญาได้ พลังแห่งความยำเกรง (ตักวา) ก็จะเข้ามาช่วยเหลือเขา และหาก ในวิถีแห่งการดำเนินชีวิต นัยน์ตาแห่งปัญญา (บะซีเราะฮ์) ยังมืดมนและอ่อนแสง และทำให้มนุษย์ขาดความรู้ (ญาฮิล) แต่แสงสว่างแห่งตักวาก็ส่องทางแก่เขาได้

พระผู้เป็นเจ้าจะทรงตอบแทนรางวัลแก่ผู้มีตักวา

    การปกป้องมนุษย์จากความผิดพลาดและการพิทักษ์เขาจากการย่างก้าวไปในเส้นทางที่หลงผิดนั้น คือรางวัลประการหนึ่งที่พระผู้เป็นเจ้าจะมอบให้กับบรรดาผู้มีตักวา (ความยำเกรงพระเจ้า) ในโลกนี้ ดังนั้นหากเราเป็นผู้มีตักวาอย่างแท้จริงแล้ว เราก็จะได้ประโยชน์จากรางวัลอันทรงคุณค่านี้


เชิงอรรถ :

1. บิฮารุ้ลอันวาร, เล่ม 75, หน้า 358

2. ศิลานักปราชญ์ (อังกฤษ: philosopher's stone, ละติน: lapis philosophorum) เป็นสสารในวิชาการเล่นแร่แปรธาตุตามตำนานซึ่งกล่าวกันว่าสามารถเปลี่ยนโลหะฐาน (เช่น ตะกั่ว) ให้เป็นทองคำหรือเงิน บ้างเชื่อว่ามีสรรพคุณเสมือนเป็นน้ำอมฤต ทำให้คืนสู่วัยหนุ่มสาว และบรรลุความเป็นอมตะ (วิกิพีเดีย)

3. อัลกุรอานบท (ซูเราะฮ์) อัลบะเกาะเราะฮ์ โองการ (อายะฮ์) ที่ 282

4. อัลกุรอานบท (ซูเราะฮ์) อัลอันฟาล โองการ (อายะฮ์) ที่ 29


ที่มา : ส่วนหนึ่งจากคุตบะฮ์วันศุกร์ มัสยิดซอฮิบุซซะมาน (อ.)

เรียบเรียงโดย : เชคมูฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 181 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

27842125
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
5100
8828
39349
27745964
32076
263086
27842125

พฤ 04 ธ.ค. 2025 :: 19:58:23