การลงมาของศาสดาอีซา (อ.) จากฟากฟ้า
การลงมาของศาสดาอีซา (อ.) จากฟากฟ้า

ชาวมุสลิมมีทัศนะตรงกันว่าท่านศาสดาอีซา รูฮุลลอฮ์ (อ.) จะลงมาจากฟากฟ้าสู่โลกในยุคสุดท้าย (อาคิรุซซะมาน)  และเกี่ยวกับโองการต่อไปนี้ของคัมภีร์อัลกุรอานที่กล่าวว่า :  “และไม่มีชาวคัมภีร์คนใด นอกจากเขาจะต้องศรัทธาต่ออีซา ก่อนที่เขาจะตาย และในวันฟื้นคืนชีพเพื่อการพิพากษานั้น เขา (อีซา) จะเป็นพยานยืนยันต่อพวกเขา

    ชาวมุสลิมมีทัศนะตรงกันว่าท่านศาสดาอีซา รูฮุลลอฮ์ (อ.) จะลงมาจากฟากฟ้าสู่โลกในยุคสุดท้าย (อาคิรุซซะมาน)  และเกี่ยวกับโองการต่อไปนี้ของคัมภีร์อัลกุรอานที่กล่าวว่า :

 وَإِن مِّنْ أَهْلِ ٱلْكِتَـٰبِ إِلَّا لَيُؤْمِنَنَّ بِهِۦ قَبْلَ مَوْتِهِۦ ۖ وَيَوْمَ ٱلْقِيَـٰمَةِ يَكُونُ عَلَيْهِمْ شَهِيدًۭا

        “และไม่มีชาวคัมภีร์คนใด นอกจากเขาจะต้องศรัทธาต่ออีซา ก่อนที่เขาจะตาย และในวันฟื้นคืนชีพเพื่อการพิพากษานั้น เขา (อีซา) จะเป็นพยานยืนยันต่อพวกเขา” (1)

    นักอรรถาธิบายคัมภีร์อัลกุรอานส่วนใหญ่ได้ตีความมันในความหมายเดียวกันนี้ และผู้เขียนหนังตัฟซีรมัจญ์มะอุลบะยานได้อ้างการตีความนี้จากอิบนุอับบาส, อบูมาลิก, กอตาดะฮ์, อิบนุซิยาด และบัลคี และเขากล่าวว่า ฏอบารีก็เลือกทัศนะนี้เช่นกัน และมัจญ์ญิซีได้รายงานการตีความนี้จากท่านอิมามบากิร (อ.) ไว้ในหนังสือบบิฮารุลอันวาร ในความหมายเดียวกัน ซึ่งท่านอิมาม (อ.) กล่าวว่า :

یَنْزِلُ قَبْلَ یَوْمِ الْقِیامَةِ اِلَی الدُّنْیا فَلا یَبْقی اَهْلُ مِلَّةِ یَهُودیٍّ وَ لا نَصْرانیٍّ اِلاّ آمَنَ بِهِ قَبْلَ مَوْتِهِ وَ یُصَلّی خَلْفَ الْمَهْدیِّ

          “เขา (อีซา) จะลงมายังโลกนี้ ก่อนวันกิยามะฮ์ ดังนั้นจะไม่มีชาวศาสนาคนใด ไม่ว่าจะเป็นชาวยิว หรือชาวคริสต์ นอกจากจะต้องศรัทธาต่อเขา ก่อนการตายของเขา และเขาจะทำนมาซตามหลังมะฮ์ดี" (2)

    ริวายะฮ์เกี่ยวกับการลงมาของศาสดาอีซา (อ.) นั้นมีมากมายในตำราอ้างอิงของชีอะอ์และซุนนี อย่างเช่นริวายะฮ์ที่มีชื่อเสียงนี้จากท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ที่กล่าวว่า :

                        كيفَ أَنْتُمْ إِذَا نَزَلَ ابنُ مَرْيَمَ فِيكُمْ، وإمَامُكُمْ مِنكُمْ

 “พวกท่านจะเป็นอย่างไรเมื่อบุตรของมัรยัมลงมา ในขณะที่อิมามของพวกท่านก็จะเป็นคนจากพวกท่านเอง”  (3)

    บุคอรีและคนอื่น ๆ ได้รายงานริวายะฮ์บทนี้ไว้ในหมวด "การลงมาของอีซา" (4)

    และอิบนุฮัมมาดได้บันทึกประมาณสามสิบริวายะฮ์ไว้ในต้นฉบับตัวเขียนของเขา จากหน้า 159 ถึงหน้า 162 ภายใต้หัวข้อ “การลงมาของอีซา บุตรของมัรยัม (อ.) และแนวทางของท่าน” และหัวข้อ “ระยะเวลาการดำเนินชีวิตของท่านหลังจากที่ลงมา” ตัวอย่างเช่นริวายะฮ์บทหนึ่งที่ถูกอ้างไว้ในซิฮาห์และบิฮารุลอันวาร จากท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ที่กล่าวว่า :

      وَالَّذِي نَفْسِي بِيَدِهِ لَيُوشِكَنَّ أَنْ يَنْزِلَ فِيكُمُ ابْنُ مَرْيَمَ حَكَماً عَادِلًا وَ إِمَامًا مُقْسِطاً، فَيَكْسِرُ الصَّلِيبَ، وَيَقْتُلُ الْخِنْزِيرَ، وَيَضَعُ الْجِزْيَةَ، وَيَفِيضُ الْمَالُ حَتَّى لاَ يَقْبَلَهُ أَحَدٌ

         “ขอสาบานต่อผู้ซึ่งชีวิตของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ว่า อีซา บุตรของมัรยัม (อ.) จะลงมาท่ามกลางพวกท่านอย่างแน่นอนในฐานะผู้พิพากษาที่ยุติธรรมและผู้นำที่เที่ยงธรรม และเขาจะทำลายไม้กางเขน ฆ่าหมู จัดเก็บภาษี (ญิซยะฮ์) และมอบทรัพย์จำนวนมากมายให้จนจะไม่มีใครยอมรับมันอีก” (5)

    และในแหล่งที่มาเดียวกันนี้ ท่านได้กล่าวไว้ว่า :

إِنَّ الْأَنْبِيَاءُ إِخْوَةٌ لِعَلَّاتٍ، دِيْنُهم وَاحِدٌ، وأُمَّهَاتُهم شَتَّى. أوْلىهُمْ بِيْ عِيْسَى بْنُ مَرْيَمَ، لَيْسَ بَيْنِيْ وَبَيْنَهُ رَسُوْلٌ، وإنَّهُ لَنَازِلٌ فِيْكُم ْفَاعْرِفُوُهُ، رَجُلٌ مَرْبُوْعُ الْخَلْقِ، إِلَى الْبَيَاضِ وَالْحُمْرَةِ. يَقْتُلُ الْخِنْزِيْرَ وَيَكْسِرُ الصَّلِيْبَ وَيَضَعُ الْجِزْيَةَ. وَلَا يَقْبَلُ غَيْرَ الإِسْلَامِ، وَتكَوْنُ الدَّعْوُةُ وَاحِدَةً لِلّهِ رَبِّ الْعَالَمِيْنَ

        “แท้จริงบรรดาศาสดานั้นเป็นพี่น้องกันด้วยเหตุผลบางประการ คือ ศาสนาของพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่มารดาของพวกเขานั้นต่างกัน ผู้ที่คู่ควรต่อฉันมากที่สุดในหมู่พวกเขาคืออีซา บุตรของมัรยัม เนื่องจากไม่มีศาสนทูตคนใดระหว่างฉันกับเขา เขาจะลงมาท่ามกลางพวกท่าน ดังนั้นจงรู้จักเขาไว้ เขาเป็นผู้ชายที่มีไหล่กว้างและร่างกายที่ใหญ่โต ผิวสีแดงอมสีขาว เขาจะฆ่าสุกร ทำลายไม้กางเขน และจัดเก็บภาษี และเขาจะไม่ยอมรับศาสนาใดๆ นอกเหนือจากอิสลาม และการเรียกร้องเชิญชวนก็เป็นหนึ่งเดียวกันคือเพื่ออัลลอฮ์ พระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก”

    ในริวายะฮ์จำนวนหนึ่งของอิบนุฮัมมาด ได้ระบุว่าสถานที่ที่อีซา (อ.) จะลงมาว่าจะเป็นที่อัลกุดส์ (กรุงเยรูซาเล็ม) และในรายงานอื่นๆ บางส่วนได้ระบุว่าจะอยู่ที่สะพานขาวที่ประตูเมืองดามัสกัส และในรายงานอื่นๆ บางส่วนได้ระบุว่าจะอยู่ที่ถัดจากหออะซานที่ประตูทางตะวันออกของดามัสกัส ตามรายงานบางส่วนระบุว่าจะอยู่ที่ประตูเมืองลุดในปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตามเป็นไปได้ดั่งที่ที่ทราบกันดีว่า ท่านจะลงมาที่อัลกุดส์ก่อน จากนั้นจึงเดินทางไปซีเรียและที่อื่นๆ

    รายงานบางส่วนระบุว่าท่านจะทำนมาซหลังท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และจะไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่บัยตุลลอฮ์ทุกปี และชาวมุสลิมก็เข้าร่วมกับท่านในการต่อสู้กับชาวยิว กรุงโรม และดุจญาล ท่านจะมีชีวิตอยู่เป็นเวลาสี่สิบปี จากนั้นพระผู้เป็นเจ้าก็จะทรงเอาชีวิตของท่านกลับไป และชาวมุสลิมก็ฝังร่างอันศักดิ์สิทธิ์ของท่าน

    ในริวายะฮ์บทหนึ่งจากอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) กล่าวว่า ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะจัดพิธีฝังศพของท่านอย่างเปิดเผยและต่อหน้าผู้คน เพื่อที่ชาวคริสเตียนจะได้ไม่พูดกล่าวอ้างคำพูดต่างๆ ในอดีตอีกต่อไป ท่านจะห่อร่างของท่านด้วยผ้าที่ทอโดยท่านหญิงมัรยัม (อ.) มารของท่าน และจะฝังท่านไว้ข้างหลุมศพของมารดาของท่านในอัลกุดส์

    ในทัศนะของผม ความเป็นไปได้ที่แข็งแกร่งที่สุดเกี่ยวกับการลงมาของท่านศาสดาอีซา (อ.) คือ เมื่อพิจารณาจากพระดำรัสของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่งในคัมภีร์อัลกุรอานที่ว่า :

وَإِن مِّنْ أَهْلِ ٱلْكِتَـٰبِ إِلَّا لَيُؤْمِنَنَّ بِهِ

 “จะไม่มีผู้ใดจากชาวคัมภีร์ เว้นแต่จะศรัทธาต่อเขา”

    สามารถกล่าวได้ว่าทั้งคริสเตียนและชาวยิวทุกชาติจะศรัทธาในตัวท่าน ปรัชญาของการขึ้นสู่ฟากฟ้าและการมีอายุยืนยาวของท่านก็คือว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกท่านให้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของพระองค์ในช่วงเวลาสำคัญของประวัติศาสตร์เมื่อท่านอิมมมะฮ์ดี (อ.) ปรากฏตัว และคริสเตียนจะเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในช่วงเวลานั้น และนี่เองคืออุปสรรคกีดขวางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อการที่แสงสว่างของศาสนาอิสลามจะเข้าถึงประชาชาติต่างๆ ของโลกและการสถาปนารัฐบาลและอารยธรรมแห่งพระเจ้าของมัน

    เพราะฉะนั้น จึงเป็นไปได้ที่จะมีการชุมนุมใหญ่ของประชาชนและความยินดีของสาธารณชนจะซึมซาบเข้าสู่จิตวิญญาณของชาวคริสต์ เนื่องจากพวกเขาถือว่าการลงมาของอีซา (อ.) เป็นของขวัญสำหรับพวกเขาเอง และการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ก็จะเป็นของขวัญสำหรับชาวมุสลิม เป็นเรื่องธรรมดาที่ศาสดาอีซา (อ.) จะต้องไปเยือนประเทศต่าง ๆ และพระผู้เป็นเจ้าจะเปิดเผยสัญญาณและปาฏิหาริย์ต่างๆ ผ่านท่าน และจะค่อย ๆ ชี้แนะชาวคริสเตียนให้หันมานับถือศาสนาอิสลามในระยะยาว ผลทางการเมืองประการแรกจากการลงมาของท่านคือการลดความเป็นปฏิปักษ์ของบรรดารัฐบาลตะวันตกที่ต่อศาสนาอิสลามและชาวมุสลิม และตามริวายะฮ์ต่างๆ ระบุว่าจะมีข้อตกลงสันติภาพและการหยุดยิงระหว่างพวกเขากับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)

    และดังที่ริวายะฮ์ คำรายงานทั้งหลายกล่าวไว้ เป็นไปได้ที่การนมาซตามหลังท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) อาจเป็นผลมาจากการละเมิดข้อตกลงสันติภาพและการหยุดยิงของชาวตะวันตก และความพยายามที่จะเปิดฉากสงครามกับกองทัพขนาดใหญ่ในภูมิภาคนั้น ที่ทำให้ท่านศาสดาอีซา (อ.) ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนของท่านในการสนับสนุนชาวมุสลิมและทำนมาซตามหลังท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)

    ส่วนการทำลายไม้กางเขนและการฆ่าหมูนั้นเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นโดยมือของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) หลังจากสงครามของชาวตะวันตกในภูมิภาคและความพ่ายแพ้ของพวกเขาในศึกครั้งใหญ่ครั้งนี้...เนื่องจากเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะพิจารณาการเคลื่อนไหวของคลื่นประชาชนในตะวันตกที่สนับสนุนท่านศาสดาอีซา (อ.) ว่าจะมีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อบรรดารัฐบาลตะวันตกก่อนและหลังการต่อสู้ครั้งใหญ่ของพวกเขากับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)

    ส่วนการปรากฏตัวของดัจญาล (แอนตี้ไครสต์) เมื่อพิจารณาจากริวายะฮ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมัน เป็นไปได้อย่างมากในความคิดของผมว่า การเคลื่อนไหวของดัจญาลนี้จะเกิดขึ้นหลังจากช่วงเวลาอันไม่สั้นนัก หลังจากการก่อตั้งรัฐบาลโลกของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชาติต่างๆ ในโลก และความก้าวหน้าอย่างน่าทึ่งของวิทยาการทั้งหลาย

    และการออกมาของดัจญาล (แอนตี้ไครสต์) หรือกลุ่มขบวนการต่อต้านพระคริสต์เป็นกระแสที่มีต้นกำเนิดมาจากชาวยิว และเหมือนกับกระแสฮิปปี้แปลกๆ ที่เกิดขึ้นจากความหรูหรา การดื่มเหล้า และการสนุกสนาน อย่างไรก็ตาม ขบวนการเคลื่อนไหวของดัจญาลผู้มีดวงตาข้างเดียวนั้นมีการพัฒนาและความก้าวหน้าอย่างมากและมีมิติทางอุดมการณ์และการเมืองที่กว้างขวาง โดยที่ขบวนการเคลื่อนไหวของดัจญาลนี้จะใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดในการโฆษณาชวนเชื่อและกลอุบายของตน และชาวยิว ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มดัจญาล จะดำเนินดัจญาล และจะแสวงหาประโยชน์จากเยาวชนหญิงและชายด้วยการหลอกลวงพวกเขา โดยสรุป ฟิตนะฮ์และการก่อความวุ่นวายของดัจญาลจะเป็นเรื่องที่หนักหน่วงและขมขื่นสำหรับชาวมุสลิม

    เกี่ยวกับริวายะฮ์ คำรายงานต่าง ๆ ที่กล่าวว่า ท่านศาสดาอีซา หรือพระคริสต์ (อ.) จะสังหารดัจญาลนั้น เราต้องระมัดระวังและตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะนี่เป็นความเชื่อของคริสเตียนที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล ในขณะที่ตามทัศนะที่เห็นพร้องตรงกันของชาวมุสลิม ผู้ปกครองรัฐบาลโลกคือท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และท่านศาสดาอีซา (อ.) นั้น จะเป็นเพียงผู้แทนและผู้ช่วยของท่าน และในริวายะฮ์ต่าง ๆ ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ได้กล่าวไว้ว่า ชาวสลิมจะทำลายดัจญาลภายใต้การนำของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)


เชิงอรรถ :

1. อัลกุรอานบทอันนิซาอ์ โองการที่ 159

2. บิฮารุลอันวาร, เล่ม 14, หน้า 530

3. บิฮารุลอันวาร, เล่ม 52, หน้า 383

4. ซอฮีห์บุคอรี, เล่ม 2, หน้า 256

5. ต้นฉบับตัวเขียน, อิบนุฮัมมาด, หน้า 162


ที่มา : หนังสือ “ยุคแห่งการปรากฏตัวของอิมามมะฮ์ดี (อ.)

ผู้เขียน : อัลลามะฮ์อะลี อัล กูรอนี

แปลโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 322 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

25978975
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
4000
4909
27266
25915847
8909
157882
25978975

ศ 02 พ.ค. 2025 :: 21:42:13