จงพยายามทำตัวเองให้อยู่ในสายตาของอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)
จงพยายามทำตัวเองให้อยู่ในสายตาของอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)

ความหวังของผู้ที่มีความรักและศรัทธาต่อท่านอิมามซะมาน (อ.ญ.) ทุกคนก็คือ วันหนึ่งจะได้เห็นท่านและจะทำให้ดวงตาของตนชื่นฉ่ำและหัวใจของตนเอิ่มเอมและปลื้มปิติจากสิ่งดังกล่าว ทว่าจำเป็นที่เราจะต้องรับรู้ว่าสิ่งที่สำคัญยิ่งไปกว่า “การเห็น” นั้นก็คือ “การถูกมองเห็น”

     กล่าวคือ เราจำเป็นจะต้องกระทำและปฏิบัติตนในลักษณะที่จะทำให้ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) พึงพอใจและมองมายังเรา หรือกล่าวตามสำนวนชาวบ้านทั่วไปก็คือ ทำให้ท่าน “เห็นเราอยู่ในสายตาของท่าน”

ในความเป็นจริงแล้วเรามีการมองเห็นอยู่สองแบบ :

    1. การมองแบบแรกคือ การมองโดยภาพรวม (อุมูม) หรือการมองเห็นโดยทั่วไป ตัวอย่างเช่น เนื่องจากหนึ่งในพระนามและคุณลักษณะ (ซิฟัต) ของอัลลอฮ์ นั่นคือ “อัลบะซีร” (ผู้ทรงแลเห็น) ดังนั้นพระองค์จึงทรงมองเห็นมนุษย์ มองเห็นสรรพสิ่งและกิจการต่าง ๆ ทั้งมวล คัมภีร์อัลกุรอานกล่าว :

إِنَّهُ بِكُلِّ شَيْءٍ بَصِيرٌ

             “แท้จริงพระองค์คือผู้ทรงมองเห็นทุกสรรพสิ่ง”

(บทอัลมุลก์ โองการที่ 19)

    2. การมองแบบที่สอง คือการมองแบบเฉพาะ (คุศูศ) ซึ่งในการมองแบบนี้จะมีลักษณะของการให้ความสนใจ การให้ความสำคัญ ความกรุณาและการให้เกียรติเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ยกตัวอย่างเช่น ในคัมภีร์อัลกุรอาน ได้กล่าวว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ซึ่งทรงมองเห็นทุกสรรพสิ่งนั้น ในวันกิยามะฮ์พระองค์จะไม่ทรงมองไปยังคนกลุ่มหนึ่ง คือไม่เห็นคนกลุ่มนั้นอยู่ในพระเนตรของพระองค์ ดังที่คัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวว่า :

وَلَا يُكَلِّمُهُمُ اللَّهُ وَلَا يَنظُرُ إِلَيْهِمْ يَوْمَ الْقِيَامَةِ

“และอัลลอฮ์จะไม่ทรงพูดกับพวกเขา (เนื่องจากความพิโรธ) และจะไม่ทรงมองดูพวกเขา (ด้วยสายตาแห่งความเมตตา) ในวันกิยามะฮ์”

(บทอาลิอิมรอน โองการที่ 77)

     ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ก็เช่นเดียวกัน ในฐานะที่เป็น “ค่อลีฟะตุลลอฮุ ฟิลอัรฎ์” (ตัวแทนของอัลลอฮ์ในหน้าแผ่นดิน) และค่อลีฟะฮ์นั้นจำเป็นต้องมีคุณลักษณะ (ซิฟัต) ของผู้มอบหมายให้เป็นตัวแทน (มุสตัคละฟุ อันฮ์) อยู่ในตัวเอง ดังนั้นท่านก็จำเป็นต้องมีการมองเห็นทั้งสองแบบนี้ด้วย ในการมองแบบภาพรวม (อุมูม) หรือการมองเห็นโดยทั้วไปของท่านอิมาม (อ.) นั้น ท่านจะเห็นและรับรู้ถึงสภาพ พฤติกรรมและการกระทำต่าง ๆ ของเราทั้งหมด ดั่งเช่นที่ในคัมภีร์อัลกุรอานได้กล่าวว่า :

وَ قُلِ اعْمَلُوا فَسَيَرَى اللَّهُ عَمَلَكُمْ وَ رَسُولُهُ وَ الْمُؤْمِنُون

“จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า พวกท่านจงกระทำ (งาน) เถิด แล้วอัลลอฮ์จะทรงเห็นการงานของพวกท่าน และศาสนทูตของพระองค์และบรรดาผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) ก็จะเห็นด้วย” (บทอัตเตาบะฮ์ โองการที่ 105)

และ “มิศดาก” (ตัวอย่าง) ที่ชัดเจนของบรรดา "มุอ์มิน” (ผู้ศรัทธา) นั่นก็คืออะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) [1]

     หรือใน “เตากีอ์” (จดหมาย) ที่ท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ได้ส่งถึงท่านเชคมุฟีด (ร.ฎ.) นั้น ท่านกล่าวว่า :

فَإِنَّا نُحِيطُ عِلْماً بِأَنْبَائِكُمْ وَ لَا يَعْزُبُ عَنَّا شَيْ‏ءٌ مِنْ‏ أَخْبَارِكُم

“แท้จริงเรามีความรู้ครอบคลุมถึงข่าวคราว (สภาพความเป็นอยู่) ของพวกท่าน และไม่มีสิ่งใดจากเรื่องราวทั้งหลายของพวกท่านจะซ่อนเร้นไปจากเราได้” [2]

     ท่านอิมาม (อ.) ก็มีการมองแบบเฉพาะ (คุศูศ) ไปยังบุคคลบางส่วน โดยที่ในการมองแบบนี้บรรดาบุคคลดังกล่าวจะได้รับความกรุณา เอาใจใส่และได้รับความสนใจเป็นพิเศษที่เรียกว่า “อยู่ในสายตา” ของท่าน และนั่นคือกรณีของบุคคลที่ขัดเกลาตนเอง ประดับประดาตนด้วยจริยธรรมที่งดงามและเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ต่าง ๆ ที่ศาสนากำหนด คนกลุ่มนี้จะดึงดูดสายตาของท่านอิมาม (อ.) มายังตน ดังที่ท่านอิมามซอดิก (อ.) ได้กล่าวว่า :

مَعاشِرَ الشیعةِ! کُونوا لَنا زَیْنا وَلا تَکونوا عَلَیْنا شَیْنا

"โอ้กลุ่มชนชีอะฮ์เอ๋ย! จงเป็นเครื่องประดับสำหรับเรา และจงอย่าเป็นสื่อที่จะนำการตำหนิประณามมาสู่เรา" [3]

     ผู้ที่ประพฤติตนตามคำสอนของศาสนาและคำแนะนำสั่งสอนของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) เท่านั้น ที่จะถูกมองหรืออยู่ในสายตาแห่งความรัก ความเอื้ออาทรและความเมตตากรุณาของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)

     ท่านอายะตุลลอฮ์อัลอุศมาญะวาดี ออมูลี ได้กล่าวว่า "เราอย่าได้รบเร้ายืนกรานที่จะเห็นท่านอิมาม (อ.) ความพยายามและความมุ่งมั่นของเราควรจะอยู่ที่ว่า (จะทำอย่างไร) ให้อิมาม (อ.) มองเห็นเรา และหาใช่เช่นนั้นแล้ว มีหลายคนที่พวกเขาได้เห็นท่านศาสดา (ซ็อลฯ) เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน และนมาซห้าเวลาตามหลังท่าน และนั่นก็ในมัสยิดอัลนะบะวี ซึ่งเป็นมัสยิดที่ประเสริฐที่สุดบนโลกนี้รองมาจากมัสยิดิลฮะรอมด้วย แต่ปัญหาของพวกเขาก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาแก้ไข" [4]

     หน้าที่ที่สำคัญประการหนึ่งของบรรดาผู้รอคอยท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) ผู้ปรารถนาจะได้เห็นท่านและเป็นส่วนหนึ่งในผู้ช่วยเหลือท่านในภารกิจอันยิ่งใหญ่ของท่าน หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เป็นผู้อยู่ในสายตาของท่านและได้รับการยอมรับจากท่านนั้น คือการเตรียมพร้อมตนเองในทุก ๆ ด้าน การเสริมสร้างความยำเกรงต่อพระผู้เป็นเจ้า (ตักวา) การประดับประดาตนเองด้วยมารยาทที่ดีงามและจริยธรรมอันสูงส่ง และรอคอยการมาของท่านอย่างแท้จริง ด้วยการเคลื่อนไหวและการจัดเตรียมความพร้อมในมิติต่าง ๆ ไม่ใช่การนั่งรอนอนรอ

     ท่านอิมามซอดิก (อ.) ได้กล่าวว่า :

من سُرّ أن يكون من أصحاب القائم ، فلينتظر وليعمل بالورع ومحاسن الأخلاق وهو منتظر ، فإن مات وقام القائم بعده كان له من الأجر مثل أجر من أدركه ، فجدّوا وانتظروا !.. هنيئاً لكم أيتها العصابة المرحومة !.

"ผู้ใดที่ปรารถนาจะเป็นสาวกของกออิม ดังนั้นเขาจงรอคอยเถิด และจงปฏิบัติตนด้วยความเคร่งครัด (วะเราะอ์) และคุณธรรมที่งดงาม ในสภาพที่เขาเป็นผู้รอคอย ดังนั้นหากเขาตายและกออิมได้ยืนหยัดขึ้นหลังจาก (การตายของ) เขา เขาก็จะได้รับผลรางวัลเหมือนกับผลรางวัลของผู้ที่อยู่พบกับกออิม ดังนั้นพวกท่านทั้งหลายจงมุ่งมั่นและจงรอคอยเถิด! .... ขอแสดงความยินดีต่อพวกท่านด้วย โอ้กลุ่มชนที่ได้รับความเมตตา!" [5]


แหล่งที่มา :

[1] อัลกาฟี, เชคกุลัยนี, เล่มที่ 1, หน้าที่ 544

[2] อัลเอี๊ยะห์ติญาจ, อัลลามะฮ์ฏ็อบริซี, เล่มที่ 2, หน้าที่ 497

[3] อัลอามาลี, เชคซอดูก, หน้าที่ 237 

[4] บทเรียนจริยธรรมประจำสัปดาห์ของท่านอายะตุลลอฮ์ญะวาดี ออมูลี

[5] อัลฆ็อยบะฮ์, อันุอ์มานี, หน้าที่ 140


บทความโดย : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2017 SAHIBZAMAN.NET-สื่อเรียนรู้อิสลามสำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 182 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

26249790
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
1151
7990
26657
26182758
102496
177228
26249790

พฤ 19 มิ.ย. 2025 :: 02:05:00