หลักเกณฑ์สามประการในการรับรู้ถึงกลุ่มคนที่รอดพ้น
Powered by OrdaSoft!
No result.

หลักเกณฑ์สามประการในการรับรู้ถึงกลุ่มคนที่รอดพ้น

ตามริวายะฮ์ (คำรายงาน) จากท่านศาสดา (ซ็อลฯ) กลุ่มคนที่รอดพ้นมีหลักเกณฑ์ 3 ประการ คือ การยึดมั่นในวิลายัตของอะ์ลุลบัยต์ (อ.) การรับความรู้จากอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) และการมีความเชื่อในอิมามสิบสองท่าน

            พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่งทรงส่งประทานคัมภีร์อัลกุรอานซึ่งเป็นคัมภีร์แห่งทางนำสุดท้ายผ่านท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) สิ่งถูกสร้างที่ประเสริฐที่สุดของพระองค์เพื่อทำหน้าที่ชี้นำแนวทางสู่ความสมบูรณ์ (กะมาล) และความผาสุก (ซะอาดะฮ์) แก่มนุษย์ ท่านศาสดาผู้มีเกียรติ (ซ็อลฯ) ได้ใช้ความอุตสาห์พยายามและทุ่มเทกำลังทั้งหมดของท่าน และทนทุกข์กับความยากลำบากที่สุดเพื่อที่จะบรรลุตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า แม้ว่าสติปัญญาของมนุษย์จะน้อยนิดจากการเข้าใจความยากลำบากเหล่านี้อย่างลึกซึ้ง แต่เมื่อคิดถึงถ้อยคำของท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ก็ทำให้สามารถตระหนักได้เป็นอย่างดีถึงคุณค่าและขอบเขตของภารกิจของท่าน ซึ่งท่านกล่าวว่า :

مَا أُوذِيَ نَبِيٌّ مِثْلَ مَا أُوذِيتُ

"ไม่มีศาสดาคนใดที่ถูกทำร้ายเหมือนดั่งที่ฉันได้ถูกทำร้าย" (1)

            ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) หลังจากอดทนต่อความยากลำบากเหล่านี้และเพื่อรักษาผลลัพธ์ต่างๆ ของสิ่งที่ได้รับ โดยพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า ท่านไม่ได้ละทิ้งอุมมะฮ์โ (ประชาชาติ) ของท่านไว้โดยปราศจากผู้ชี้นำ และท่านได้แนะนำท่านอะมีรุลมุอ์มินีน อะลี บินอบีฏอลิบ (อ.) ในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่ง คอลีฟะฮ์ และผู้นำทางประชาชนภายหลังจากท่าน ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ซึ่งรู้เป็นอย่างดีว่า ชาวมุสลิมที่เนรคุณและคนหน้าซื่อใจคด (มุนาฟิกีน) ที่มีจิตใจมืดบอดจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้น เพื่อทำให้หลักฐานสมบูรณ์และยุติการโต้เถียงนี้ ท่านจึงกล่าวว่า :

سَتَفْتَرِقُ أُمَّتِي عَلَى ثَلاَثٍ وَ سَبْعِينَ فِرْقَةً مِنْهَا فِرْقَةٌ نَاجِيَةٌ وَ اَلْبَاقُونَ هَالِكُونَ

"ประชาชาติของฉันจะแตกแยกออกเป็นเจ็ดสิบสามกลุ่ม ซึ่งมีกลุ่มเดียวที่รอดพ้น และกลุ่มที่เหลือจะพินาศ" (2)

           ในประเด็นที่ว่าจำนวนเจ็ดสิบสาม เป็นจำนวนเท่านี้จริง หรือเป็นอธิบายให้เห็นถึงจำนวนมากเพียงเท่านั้น ในหมู่นักวิชาการมีความเห็นที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือการแยกแยะและการรับรู้ถึงกลุ่มที่รอดพ้น ประเด็นนี้มีความสำคัญมากถึงขั้นที่ว่า ไม่สามารถจะพูดได้อีกต่อไปว่าไม่มีปัญหาอะไร หากฉันจะไม่รับรู้ถึงกลุ่มที่รอดพ้น และไม่เข้าร่วมกับพวกเขา เนื่องจากมันคือประเด็นของเรื่องสวรรค์และนรก ความผาสุก (ซะอาดะฮ์) และความทุกข์เข็ญ (ชะกอวะฮ์)

           ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้อธิบายถึงหลักเกณฑ์สามประการในการแยกแยะและรับรู้ถึงกลุ่มที่รอดพ้น เมื่อพิจารณาหลักเกณฑ์ทั้งสามนี้อย่างละเอียดแล้ว เราสามารถรับรู้ถึงกลุ่มที่รอดพ้นได้อย่างง่ายดาย

ก. การยึดมั่นในวิลายะฮ์ (อำนาจปกครอง) ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.)

           หลักเกณฑ์แรกของกลุ่มที่รอดพ้น คือการยึดมั่นและปฏิบัติตามอะอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) กล่าวว่า :

فَالنَّاجُونَ اَلَّذِينَ يَتَمَسَّكُونَ بِوَلاَيَتِكُمْ

"ดังนั้นบรรดาผู้รอดคือผู้ที่ยึดติดอยู่กับวิลายะฮ์ของพวกเจ้า" (3)

         นี่ก็คือหลักเกณฑ์ที่ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) อธิบายไว้ในหะดีษอัษษะกอลัยน์นั่นเอง ท่านกล่าวว่า :

إِنِّي تَارِكٌ فِيكُمُ اَلثَّقَلَيْنِ مَا إِنْ تَمَسَّكْتُمْ بِهِمَا لَنْ تَضِلُّوا: كِتَابَ اَللَّهِ وَ عِتْرَتِي أَهْلَ بَيْتِي

 "แท้จริงฉันคือผู้ละทิ้งสิ่งสำคัญสองสิ่งไว้ในหมู่พวกท่าน หากพวกท่านยึดมั่นต่อทั้งสองนี้ พวกท่านจะไม่หลงทางตลอดไป นั่นคือ : คัมภีร์ของอัลลอฮ์และเชื้อสายของฉัน ผู้เป็นอะฮ์ลุลบัยติ์ (ครอบครัว) ของฉัน" (4)

ข. การใช้ประโยชน์จากความรู้ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.)

          หลักเกณฑ์ที่สองในการรับรู้กลุ่มทีรอดพ้นคือการรับและใช้ประโยชน์จากความรู้ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) กล่าวว่า :

وَ يَقْتَبِسُونَ مِنْ عِلْمِكُمْ

 "และพวกเขาจะรับประโยชน์จากความรู้ของของพวกเจ้า" (5)

           อิหม่ามบากิร (อ.) ซึ่งท่านเองเป็นผู้ผ่าคลังแห่งความรู้ ได้อธิบายถึงอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) ไว้ดังนี้ว่า :

نَحْن خُزَّانُ عِلْمِ اَللَّهِ

"พวกเรา (อะฮ์ลุลบัยติ์) คือคลังความรู้ของพระผู้เป็นเจ้า" (6)

           ดังนั้น การรับความรู้จากอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) จึงเป็นการรับเอาความรู้จากพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง

ค. ยึดมั่นในสิบสองอิมาม

           หลักเกณฑ์ที่สามที่ท่านศาสดา (ซ็อลฯ) ได้อธิบายไว้เพื่อแยกแยะกลุ่มที่รอดพ้นคือจำนวนอิมามของพวกเขา ซึ่งท่านกล่าวว่า  จำนวนอิมามของกลุ่มที่รอดพ้นนั้นมีสิบสองคน เท่ากับจำนวนผู้นำกลุ่มชนแห่งวงศ์วานอิสราเอล :

عدَدَ نُقَبَاءِ بَنِي إِسْرَائِيلَ

"จำนวนของพวกเขาเท่ากับจำนวนของนุกอบาอ์แห่งบนีอิสรออีล" (7)

           ตามหลักเกณฑ์ทั้งสามที่กล่าวไป มีเพียงกลุ่มเดียวที่รอดพ้น คือ "ชีอะฮ์ อิซนาอะชะรียะฮ์" (ชีอะฮ์สิบสองอิมาม) หรือ "ชีอะฮ์ยะฟะรียะฮ์) ซึ่งเป็นชีอะฮ์เพียงกลุ่มเดียวที่ยึดมั่นในวิลายะฮ์ของอัฮ์ลุลบัยต์ (อ.) และได้นำความรู้ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) มาใช้ในทุกเรื่องของชีวิตทางโลกนี้และชีวิตทางปรโลกของเขา และ จำนวนอิมามของพวกเขาคือสิบสองคน กลุ่มอื่นๆ ที่เรียกตัวเองว่ามุสลิมไม่มีกลุ่มใดที่มีหลักเกณฑ์ทั้งสามประการ บางกลุ่มได้ยึดมั่นต่อผู้อื่นที่ไม่ใช่อะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) และแม้แต่ยึดมั่นต่อบรรดาศัตรูของพวกท่าน และบางกลุ่มได้ปิดกั้นตัวเองจากการรับประโยชน์จากความรู้ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) และบางคนมีอิมามมากกว่าสิบสองคนหรือ น้อยกว่าจำนวนนี้


เชิงอรรถ :

(1). กัชฟุลฆุมมะฮ์, เล่ม 2, หน้า 537

(2). บิฮารุลอันวาร, เล่ม 36, หน้า 336

(3). เล่มเดิม

(4)]. อิษบาตุลฮุดาต, เล่ม 2, หน้า 189

(5). เล่มเดิม

(6). อัลมะนากิบ, เล่ม 4, หน้า 206

(7). เล่มเดิม


แปล/เรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2023 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 632 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

10483151
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
6339
55742
6339
9979155
289331
2045354
10483151

อ 05 พ.ค. 2024 :: 02:23:25