คุณลักษณะอันสูงส่งที่ทำให้ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ไปถึงตำแหน่งผู้ให้ชะฟาอัต (การอนุเคราะห์)
คุณลักษณะอันสูงส่งที่ทำให้ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ไปถึงตำแหน่งผู้ให้ชะฟาอัต (การอนุเคราะห์)

ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ มะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ด้วยความบริสุทธิ์ใจ การอพยพในทางของอัลลอฮ์ (ซ.บ.) ความรู้ (มะอ์ริฟะฮ์) และการเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์ต่ออิมามแห่งยุคสมัยของท่าน ทำให้ท่านสามารถบรรลุตำแหน่งผู้ให้ชะฟาอัต (การอนุเคราะห์) ที่ไม่น่าเชื่อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นในบทซิยาเราะฮ์ของท่าน...

คุณลักษณะอันสูงส่งที่ทำให้ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ไปถึงตำแหน่งผู้ให้ชะฟาอัต (การอนุเคราะห์)  (1)   

    ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ มะอ์ซูมะฮ์ (อ.) เป็นหนึ่งในสตรีผู้เป็นแบบอย่างและเปี่ยมไปด้วยคุณลักษณะอันงดงามแห่งครอบครัวของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ผู้ซึ่งได้รับประโยชน์จากแหล่งความรู้อันบริสุทธิ์ และความประเสริฐทางจิตวิญญณของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ท่านถือกำเนิดขึ้นในบ้านแห่งวะห์ยู (วิวรณ์) และเติบโตขึ้นในอ้อมอกของมารดาผู้บริสุทธิ์และบิดาอย่างเช่นท่านอิมามมูซากาซิม (อ.) สตรีผู้สูงศักดิ์ผู้นี้ไม่เพียงแต่เติบโตขึ้นในความรู้และการรู้จัก (มะอ์ริฟะฮ์) เท่านั้น แต่ยังถือว่าท่านเป็นแบบอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ในเรื่องความรักและการเชื่อฟังต่ออิมามแห่งยุคของตนอีกด้วย การเดินทางไปซิยาเราะฮ์ (แสวงบุญ) ณ สถานฝังศพของท่านในเมืองกุมนั้นมีคุณค่ามากจนถึงขนาดที่อะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ได้กล่าวว่า :

مَنْ زَارَهَا عَارِفاً بِحَقِّهَا فَلَهُ الْجَنَّةُ

 “ผู้ใดที่ไปซิยาเราะฮ์ (เยือนหลุมฝังศพ) นาง ในสภาพผู้ที่รู้จักสิทธิของนาง สวรรค์จะเป็นของเขา” (2)

    หรือในบทซิยาเราะฮ์ของท่าน ซึ่งมีรายงานมาจากท่านอิมามริฎอ (อ.) พี่ชายของท่าน ซึ่งกล่าวว่า :

 یَا فَاطِمَةُ اشْفَعِی‏ لِی فِی الْجَنَّةِ 

 "โอ้ฟาฏิมะฮ์! โปรดช่วยเหลือฉันในสวรรค์ในสวรรค์ด้วยเถิด" (3)

    ตำแหน่งอันสูงส่งนี้ เป็นสัญลักษณ์ของสถานภาพที่ของท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ได้รับจากพระผู้เป็นเจ้า คำถามหลักในที่นี้ก็คือว่า ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) บรรลุตำแหน่งที่สูงส่งเช่นนี้และการเป็นผู้ให้ชะฟาอัตในสวรรค์ได้อย่างไร?

ความบริสุทธิ์ใจและความมีศรัทธาที่เปี่ยมล้น

    เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ไปถึงตำแหน่งผู้ให้ชะฟาอัต (มะกอมุชชะฟาอะฮ์)  คือ ความบริสุทธิ์ใจในศรัทธา (อีหม่าน) และการยอมตนในความเป็นบ่าว (ตะอับบุด) ต่อพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงสูงส่ง สตรีผู้เปี่ยมไปด้วยความบริสุทธิ์ท่านนี้ได้อุทิศทั้งชีวิตของตนให้กับเส้นทางของพระผู้เป็นเจ้าและศาสนา และด้วยการสนับสนุนวิลายะฮ์ (อำนาจการคุ้มครองและการเป็นผู้นำ) ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) และอิมามมะฮ์ ที่ทำให้ท่านหญิงไม่เพียงแต่ได้รับตำแหน่งแห่งความใกล้ชิดพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แต่ท่านยังได้ทิ้งแบบอันนิรันดร์ของการเป็นผู้ยึดมั่นในวิลายะฮ์ไว้ให้กับประชาชาติอิสลามอีกด้วย การที่ท่านได้รับความรักเป็นพิเศษจากบรรดาอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) นั้น ก็เนื่องมาจากความศรัทธาอันมั่นคงและความรักอันบริสุทธิ์ที่มีต่อพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นพื้นฐานของความสมบูรณ์แบบ (กะมาลาต) ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

การอพยพในทางของพระเจ้าและเคาะลีฟะฮ์ของพระองค์

    ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ได้ทำการอพยพครั้งใหญ่เพื่อช่วยเหลืออิมามแห่งยุคสมัยของท่าน คือ ท่านอิมามริฎอ (อ.) แม้จะต้องเผชิญความยากลำบาก อันตราย และปัญหาต่าง ๆ นานัปการตลอดการเดินทาง แต่ท่านก็ตัดสินใจออกเดินทางจากเมืองมะดีนะฮ์ไปยังอิหร่านเพื่อไปเยี่ยมเยียนท่านอิมาม การอพยพครั้งนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของ "ผู้อพยพในทางของอัลลอฮ์" และพระผู้เป็นเจ้าได้สัญญาว่าจะมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่ให้กับผู้อพยพทางทางของพระองค์ไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน ดังที่พระองค์ทรงตรัสว่า :

وَ مَنْ یَخْرُجْ مِنْ بَیْتِهِ مُهَاجِرًا إِلَى اللَّهِ وَرَسُولِهِ ثُمَّ یُدْرِكْهُ الْمَوْتُ فَقَدْ وَقَعَ أَجْرُهُ عَلَى اللَّهِ ۗ وَكَانَ اللَّهُ غَفُورًا رَحِیمًا

"และผู้ใดที่ออกจากบ้านของเขาไป ในฐานะผู้อพยพไปยังอัลลอฮ์ และศาสนทูตของพระองค์ แล้วความตายก็มาถึงเขา แน่นอนรางวัลของเขานั้นย่อมปรากฏอยู่ ณ อัลลอฮฺ และอัลลอฮ์นั้น เป็นผู้ทรงอภัยโทษยิ่ง ผู้ทรงเมตตาเสมอ” (4)

    การอพยพของท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) เป็นสัญลักษณ์ของการก้าวข้ามความยากลำบากต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนสัจธรรม และการช่วยเหลืออิมามแห่งยุคสมัยของท่าน ซึ่งยกระดับสถานะของเธอในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้า ด้วยเหตุนี้เอง ท่านอมีรุลมุอ์มินีน อะลี บิน อบีฏอลิบ (อ.) จึงกล่าวในคำอธิบายคำว่า "มุฮาญิร" (ผู้อพยพ) ว่า :

لَا یَقَعُ اسْمُ الْهِجْرَةِ عَلَى أَحَدٍ إِلَّا بِمَعْرِفَةِ الْحُجَّةِ فِی الْأَرْضِ فَمَنْ عَرَفَهَا وَ أَقَرَّ بِهَا فَهُوَ مُهَاجِرٌ

“ชื่อของฮิจเราะฮ์ (การอพยพ) จะไม่เกิดขึ้นกับใคร เว้นแต่ด้วยการรู้จัก "ฮุจญะฮ์" (ผู้เป็นหลักฐานของพระผู้เป็นเจ้า) ในโลกนี้ ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่รู้จักฮุจญะฮ์ และยอมรับฮุจญะฮ์ เขาก็คือผู้อพยพ” (5)

ความจงรักภักดีต่ออิมามแห่งยุคสมัย

    ในเรื่องนี้ เหตุผลอีกประการหนึ่งที่ทำให้ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ไปถึงตำแหน่งชะฟาอัต ก็คือ ความจงรักภักดีที่ไม่มีใครเทียบได้ของท่านที่มีต่ออิมามแห่งยุคสมัย ด้วยความรู้จักที่ถูกต้องที่มีต่อสถานะของวิลายะฮ์นี้เอง ท่านจึงทุมเทพยายามของตนอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือท่านอิมามริฎอ (อ.) และไม่เคยเบี่ยงเบนจากเส้นทางของสัจธรรม ความจงรักภักดีต่ออิมามแห่งยุคสมัย เป็นสัญลักษณ์ของศรัทธาที่สมบูรณ์และความรู้อันลึกซึ้ง และท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ได้แสดงให้เห็นความจริงข้อนี้อย่างสวยงามตลอดทุกช่วงของชีวิตของท่าน

ความรู้และการรู้จัก (มะอ์ริฟะฮ์) ที่โดดเด่น

    ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ได้บรรลุถึงตำแหน่งอันสูงส่งไม่เพียงแต่ในด้านการกระทำ (อะมัล) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงในด้านความรู้และการรู้จัก (มะอ์ริฟะฮ์) ด้วย ในบรรดาสตรีของครอบครัวอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ท่านหญิงเป็นที่รู้จักในเรื่องความเข้าใจอันลึกซึ้งในคำสอนของศาสนาและคัมภีร์กุรอาน และตามคำกล่าวของบรรดานักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่ ท่านหญิงได้รับการยกย่องให้เป็นนักวิชาการที่โดดเด่นคนหนึ่งในยุคของท่าน ความรู้และมะอ์ริฟะฮ์ดังกล่าวพร้อมกับความยำเกรง (ตักวา) ต่อพระผู้เป็นเจ้า ทำให้ท่านหญิงกลายเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลซึ่งมีบทบาทสำคัญไม่เพียงแต่ในการชี้นำผู้คนเท่านั้น แต่ยังจะทำหน้าที่ในการชะฟาอัต หรือการวิงวอนขอการอนุเคราะห์จากพระผู้เป็นเจ้าให้กับปวงบ่าวของพระองค์ในวันพิพากษาอีกด้วย

ความรักของอะฮ์ลุลบัยต์ที่มีต่อท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.)

    ตัวบ่งชี้และบรรทัศฐานของความรักและความกรุณาของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ต่อชาวชีอะฮ์ของพวกท่านขึ้นอยู่กับระดับการปฏิบัติตามที่บุคคลต่าง ๆ มีต่อพวกท่าน และนี่คือกฎเกณฑ์ที่มาจากพระผู้เป็นเจ้า ดังที่ท่านศาสดาอิบรอฮีม (อ.) ได้กล่าวไว้ว่า :

فَمَنْ تَبِعَنِی فَإِنَّهُ مِنِّی

          “ผู้ใดที่ปฏิบัติตามฉัน ดังนั้นเขาก็เป็นส่วนหนึ่งจากฉัน” (6)

    ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) เป็นที่รักของบรรดามะอ์ซูมทั้งสิบสี่ท่าน ฉะนั้น ตำแหน่งชะฟาอัตของท่านจึงเป็นสัญญาณแห่งความรักและความเอ็นดูของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ที่ท่านมีต่อท่าน และด้วยเหตุนี้ จึงเป็นสัญญาณแห่งความรักที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีต่อท่านด้วย สถานภาพที่พิเศษนี้เกิดขึ้นจากความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณ ความยำเกรง (ตักวา) ความรู้ และความมุ่งมั่นที่สตรีผู้สูงศักดิ์ท่านนี้มีต่อพระผู้เป็นเจ้าและอะฮ์ลัลบัยต์เท่านั้น ความรักที่อัลลอฮ์ทรงมีต่อท่านเป็นตราประทับแห่งการอนุมัติจากพระผู้เป็นเจ้าสำหรับการชะฟาอัตของสตรีผู้สูงศักดิ์ผู้นี้

    ดังนั้น ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ (อ.) ด้วยความบริสุทธิ์ใจ การอพยพในทางของอัลลอฮ์ ความรู้ (มะอ์ริฟะฮ์) และการเชื่อฟังอย่างสมบูรณ์ต่ออิมามแห่งยุคสมัยของตนจึงทำให้ท่านสามารถบรรลุตำแหน่งชะฟาอัตที่น่าเหลือเชื่อ ซึ่งปรากฏให้เห็นในบทซิยาเระฮ์ของท่าน การดำรงอยู่ของท่านไม่เพียงแต่เป็นแบบอย่างสำหรับผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบอย่างให้กับผู้คนทุกคนที่แสวงหาสัจธรรมและความจริง คือบรรดาผู้ที่ปรารถนาจะเดินตามเส้นทางของการเป็นบ่าวและความใกล้ชิดต่อพระผู้เป็นเจ้าด้วยความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์และบรรลุถึงความสุขนิรันดร์อีกด้วย


เชิงอรรถ :

1. ชะฟาอัต คือ การเป็นสื่อกลางในการขอความช่วยเหลือให้ผู้อื่น ณ พระผู้เป็นเจ้า

2. บิฮารุลอันวาร, เล่มที่ 99, หน้าที่ 266

3. บทซิยาเราะฮ์ท่านหญิงมะอ์ซูมะฮ์ , มะฟาตีฮุลญินาน

4. อัลกุรอานบทอันนิซาอ์ โองการที่ 100

5. นะฮ์ญุลบะลาเฆาะฮ์ , คุฏบะฮ์ที่ 109

6. อัลกุรอานบทอิบรอฮีม โองการที่ 36


บทความ : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 60 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

25983752
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
4410
4367
32043
25915847
13686
157882
25983752

ส 03 พ.ค. 2025 :: 19:53:57