อิหร่านเผยการตอบโต้ทางทหารที่รุนแรง ทำให้อิสราเอลต้องยุติสงครามฝ่ายเดียว
อิหร่านเผยการตอบโต้ทางทหารที่รุนแรง ทำให้อิสราเอลต้องยุติสงครามฝ่ายเดียว

หน่วยงานความมั่นคงระดับสูงของอิหร่านกล่าวว่า การตอบโต้อย่างรุนแรงของกองทัพอิหร่านซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการ True Promise III บังคับให้ระบอบการปกครองของอิสราเอลต้องยุติสงครามฝ่ายเดียว

    สำนักงานเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่าน (SNSC) กล่าวว่า ระบอบการปกครองของอิสราเอลถูกบังคับให้ยุติการรุกรานสาธารณรัฐอิสลามฝ่ายเดียว ภายหลังการตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยวและทรงพลังจากกองกำลังติดอาวุธของอิหร่าน

    ในแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร (24 มิ.ย.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ระบอบการปกครองอิสราเอลหยุดการรุกรานหลังจากผ่านไป 12 วัน ตามข้อตกลงระหว่างเทลอาวีฟและวอชิงตัน หน่วยงานด้านความมั่นคงระดับสูงของอิหร่านยกย่องกองกำลังความมั่นคงของประเทศ ที่แสดงให้เห็น "ความกล้าหาญที่เป็นแบบอย่าง" ในการเผชิญหน้ากับการสู้รบของอิสราเอล

    แถลงการณ์ระบุว่า “เพื่อตอบโต้ต่อการรุกรานของศัตรูไซออนิสต์ เด็ก ๆ ที่กล้าหาญและเสียสละของคุณในกองทัพสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านได้เชื่อฟังคำสั่งของผู้นำและผู้บัญชาการทหารสูงสุด (อายาตุลลอฮ์ ซัยยิด อาลี คอเมเนอี) และตอบโต้ด้วยความกล้าหาญที่เป็นแบบอย่างต่อทุกการกระทำที่เป็นศัตรู”

    แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่อิสราเอลยืนยันที่จะยุติการรุกราน ซึ่งประกาศครั้งแรกโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เมื่อเช้าวันอังคาร เตหะรานยังไม่ได้ยืนยันการสงบศึกอย่างเป็นทางการ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา อับบาส อาราฆชี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่า เตหะรานจะยุติการโจมตีตอบโต้ “โดยมีเงื่อนไขว่า ระบอบการปกครองของอิสราเอลจะต้องยุติการรุกรานที่ผิดกฎหมายต่อประชาชนชาวอิหร่าน”

    SNSC ชี้ให้เห็นว่า ปฏิบัติการล่าสุดของกองกำลังติดอาวุธอิหร่านได้โจมตีฐานทัพอากาศ อัลอูเดด ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ ในกาตาร์ และดินแดนที่ยึดครองทั้งหมดด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธ

   แถลงการณ์ดังกล่าวยกย่อง “การเฝ้าระวังเป็นพิเศษ การดำเนินการที่ทันท่วงที การต่อต้าน และความสามัคคีของชาวอิหร่าน” ในการทำลายยุทธศาสตร์หลักของศัตรู และสร้างเงื่อนไขสำหรับ “ความมั่นคงและพลังอันน่าตื่นตะลึงของนักรบแห่งอิสลาม” ซึ่งได้รับการพัฒนาจากการต่อสู้ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและสร้างสรรค์เป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งสามารถนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่ในช่วง 12 วันของการต่อต้านอย่างเข้มข้นและชำนาญ

    รายงานดังกล่าวได้บรรยายถึงผลลัพธ์ว่า เป็น “ของขวัญจากพระเจ้า” เพื่อแลกกับความเข้าใจอันเฉียบแหลมของประเทศ ความมุ่งมั่นของกองกำลังติดอาวุธ และคำแนะนำอันชาญฉลาดของผู้นำการปฏิวัติอิสลาม อายาตุลลอฮ์ ซัยยิด อาลี คอเมเนอี ส่งผลให้เกิดความเสียใจ ต่อความพ่ายแพ้ และยุติการสู้รบลงเพียงฝ่ายเดียว

    นอกจากนี้ กองทัพอิหร่านยังยืนยันอีกว่า กองกำลังติดอาวุธของอิหร่านยังคงอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมสูงสุด “พร้อมที่จะตอบโต้อย่างหนักแน่นและสร้างความเสียใจต่อการกระทำรุกรานใด ๆ ที่เกิดขึ้นใหม่”

    เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน อิสราเอลได้เปิดฉากรุกรานอิหร่านอย่างโจ่งแจ้ง ส่งผลให้ผู้บัญชาการทหาร นักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ และพลเรือนทั่วไปเสียชีวิต

    เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน สหรัฐฯ ได้เข้าร่วมกับระบอบการปกครองอิสราเอลในการโจมตีและทิ้งระเบิดโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายระหว่างประเทศ และสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) อย่างร้ายแรง

    กองกำลังติดอาวุธของอิหร่านสัญญาว่าจะ “เปิดประตูแห่งนรก” ให้แก่อิสราเอล และเริ่มโจมตีสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั่วดินแดนที่ยึดครองด้วยขีปนาวุธและโดรนเพื่อลงโทษ

    วันต่อมา อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธไปที่ฐานทัพอากาศอัลอูเดดในกาตาร์ ซึ่งเป็นฐานทัพทหารสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันตก

   ในแถลงการณ์ภายหลังจากปฏิบัติการตอบโต้ที่ประสบความสำเร็จโดยใช้รหัสชื่อ “ข่าวแห่งชัยชนะ” กองทัพอิหร่านระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นการตอบโต้ต่อ “การรุกรานทางทหารอย่างโจ่งแจ้งของระบอบอาชญากรของสหรัฐฯ” ต่อโรงงานนิวเคลียร์ของสาธารณรัฐอิสลาม

   ฐานนี้ทำหน้าที่เป็นสำนักงานใหญ่ของกองบัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาและถือเป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของกองทัพอเมริกาในเอเชียตะวันตก


ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 186 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

26343706
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
6669
10518
60066
26223133
196412
177228
26343706

พฤ 26 มิ.ย. 2025 :: 16:02:43