สมาชิกรัฐสภาอิหร่านกำลังผลักดันร่างกฎหมายต่อรัฐสภาเพื่อเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารเพื่อเสริมกำลังกองทัพให้แข็งแกร่งขึ้นสำหรับการเผชิญหน้าเต็มรูปแบบกับระบอบการปกครองของอิสราเอล
เมื่อวันอาทิตย์ (13 ก.ค.) คณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงแห่งชาติและนโยบายต่างประเทศของรัฐสภาอิหร่านได้อนุมัติโครงร่างทั่วไปของกฎหมายดังกล่าว
นายอิบราฮิม เรซาอี โฆษกคณะกรรมการ กล่าวว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการรับรองระหว่างการประชุมซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพ และกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) เข้าร่วม
เรซาอีกล่าวเสริมว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งได้รับการสนับสนุนจากผู้แทนกรุงเตหะราน นายอาลี เคซเรียน ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภา 120 คน
ในระหว่างการประชุม รองรัฐมนตรีกลาโหมของอิหร่านเน้นย้ำว่า กระทรวงกำลังมองหาทรัพยากรงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการป้องกันประเทศของประเทศ
กฎหมายฉบับนี้เกิดขึ้นหลังจากสงครามรุกราน 12 วัน ที่อิสราเอลเปิดฉากเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งในระหว่างนั้นฐานทัพทหารและพลเรือนของอิหร่านตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีทางอากาศหลายครั้ง การโจมตีดังกล่าวส่งผลให้ชาวอิหร่านเสียชีวิตกว่า 1,000 คน รวมถึงผู้บัญชาการทหารระดับสูงและนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์
เพื่อตอบโต้ อิหร่านจึงได้เปิดปฏิบัติการ True Promise III ซึ่งเป็นการโต้กลับครั้งใหญ่ที่โจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร หน่วยข่าวกรอง และอุตสาหกรรมที่สำคัญทั่วดินแดนที่ถูกยึดครอง
ปฏิบัติการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธและโดรนนับร้อยลูก ซึ่งทำให้ระบบต่อต้านขีปนาวุธของอิสราเอลเสียหายอย่างหนัก และสร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางทั่วเทลอาวีฟ ไฮฟา และเบียร์เชบา
การโจมตีตอบโต้ตามมาด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านต่อฐานทัพอากาศอัลอูเดด ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศสำคัญของสหรัฐฯ ในภูมิภาค หลังจากที่สหรัฐฯ เข้าร่วมสงครามด้วยการทิ้งระเบิดโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ระบอบการปกครองของอิสราเอลถูกบังคับให้ประกาศหยุดการรุกรานฝ่ายเดียว โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นผู้ประกาศในนามของรัฐบาลอิสราเอล
ที่มา : สำนักข่าว เพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่