21 สิงหาคม “วันมัสยิดสากล” วันที่มัสยิดอัลอักซอถูกเผาโดยน้ำมือยิวไซออนิสต์
21 สิงหาคม “วันมัสยิดสากล” วันที่มัสยิดอัลอักซอถูกเผาโดยน้ำมือยิวไซออนิสต์

วันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ.1969 มัสยิดอัลอักซอ (ซึ่งเป็นกิบลัตแรกของชาวมุสลิมและเป็นหนึ่งในสถานที่ประกอบอิบาดะฮ์ การนมัสการและการเคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นที่เคารพเทิดทูนของทุกศาสนาแห่งฟากฟ้า) ได้ถูกเผาโดยชาวไซออนิสต์

มัสยิดในฐานะสถานที่ประกอบศาสนกิจและศูนย์ชุมชน ควรทำหน้าที่เป็นประภาคารแห่งการชี้แนะ ส่งเสริมความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างผู้คนจากทุกศาสนาและทุกภูมิหลัง

    มัสยิดถือเป็นสถานที่ที่สำคัญในสังคมอิสลามและสมควรได้รับความเคารพ เนื่องจากการละเมิดศาสนาถือเป็นสิ่งที่ชาวมุสลิมไม่พอใจอย่างยิ่ง

    วันมัสยิดโลกจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์วางเพลิงมัสยิดอัลอักซอ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการปกป้องสถานที่ทางศาสนา

    เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2512 (ค.ศ.1969) กลุ่มหัวรุนแรงได้จุดไฟเผามัสยิดอัลอักซอ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในฐานะอดีตกิบลัตแรกของชาวมุสลิม

    ไฟไหม้สร้างความเสียหายเกือบ 1,500 ตารางเมตร ทำลายสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และทำให้โครงสร้างพังทลาย ส่งผลให้เกิดความโกรธแค้นและการประณามจากประเทศมุสลิม

    มติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 271 ประณามอิสราเอลกรณีวางเพลิง วันมัสยิดโลกจึงได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของมัสยิดอัลอักซอในฐานะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับสามของศาสนาอิสลาม

    จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจดจำถึงคุณค่าร่วมกันที่เชื่อมโยงชาวมุสลิมเข้าด้วยกันและทำงานร่วมกันเพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน

    วันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ.1969 มัสยิดอัลอักซอ (ซึ่งเป็นกิบลัตแรกของชาวมุสลิมและเป็นหนึ่งในสถานที่ประกอบอิบาดะฮ์ การนมัสการและการเคารพภักดีพระผู้เป็นเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่ง และเป็นที่เคารพเทิดทูนของทุกศาสนาแห่งฟากฟ้า) ได้ถูกเผาโดยชาวไซออนิสต์

    สองเดือนหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการจัดประชุมในโมร็อกโกโดยการเข้าร่วมของบรรดาผู้นำรัฐบาลอิสลาม แต่ในการประชุมครั้งนี้กษัตริย์ชาฮ์แห่งอิหร่าน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับอิสราเอลไม่ได้กล่าวถึงเกี่ยวกับการถูกเผาของมัสยิดอัลอักซอแต่อย่างใดเลย

    จากการดำเนินการดังกล่าวนี้ได้เผชิญกับปฏิกิริยาตอบโต้ที่รุนแรงจากท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ซึ่งขณะนั้นท่านถูกเนรเทศและพำนักอยู่ในเมืองนะญัฟอัลอัชร็อฟ ประเทศอิรัก ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ถือว่า การประชุมบรรดาผู้นำประเทศอิสลามครั้งนั้นเนื่องจากการขาดความบริสุทธิ์ใจและความจริงใจของผู้เข้าร่วมบางคน จึงไม่มีส่วนใด ๆ ในการรับใช้ชาวมุสลิมเลย

    ในการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของอิรัก ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ.) ได้กล่าวย้ำว่า : “ตราบใดที่ปาเลสไตน์ยังไม่ได้รับการปลดปล่อย ชาวมุสลิมไม่ควรที่จะบูรณะซ่อมแซมมัสยิดอัลอักซอขึ้นมาใหม่ พวกเขาจงปล่อยให้อาชญากรรมของไซออนิสต์ที่กระทำต่อมัสยิดนี้ปรากฏแก่สายตาของชาวมุสลิมตลอดไป และให้มัสยิดนี้จงเป็นบ่อเกิดของการเคลื่อนไหวเพื่อการปลดปล่อยปาเลสไตน์”

    ในปี ค.ศ.2002 ในระหว่างการประชุมของบรรดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของประเทศสมาชิก OIC (57 คน) ครั้งที่ 30 ณ กรุงเตหะราน โดยการเสนอของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน โดยกำหนดให้วันที่มัสยิดอัลอักซอต้องถูกเผาโดยไซออนิสต์ (21 สิงหาคม) เป็น “วันมัสยิดโลก”

    ขณะที่ในช่วงหลายเดือนมานี้ กลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีโดยการปฏิบัติตามสันดานชั่วในการต่อต้านอิสลามของชาวไซออนิสต์ และภายใต้หน้ากากของการสร้างความขัดแย้งทางมัซฮับ (นิกาย) ในหมู่ชาวมุสลิมนั้น พวกเขาได้ทำการทำลายมัสยิดและบรรดาสัญลักษณ์ต่าง ๆ แห่งเตาฮีด (การยอมรับในเอกานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า)

     วันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ.1969 มัสยิดอัลอักซอถูกวางเพลิงโดยชาวไซออนิสต์ และหลายปีต่อมาหลังจากชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน วันนี้ (21 สิงหาคม) จึงถูกกำหนดโดยบรรดาสมาชิก OIC ให้เป็น “วันมัสยิดสากล” โดยการเสนอของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน


ที่มา : สำนักข่าว mehrnews

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 389 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

26777807
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
2580
8414
35812
26695292
152429
243345
26777807

ศ 22 ส.ค. 2025 :: 05:40:55