ขณะนี้กาตาร์กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันที่จะต้องเปิดตาต่อความเป็นจริงและยืนหยัดในจุดยืนที่หนักแน่นมากขึ้น โดยตอบโต้อย่างเหมาะสมต่อการโจมตีทางทหารของระบอบไซออนิสต์ที่โจมตีโดฮาเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ระบอบการปกครองของอิสราเอลได้โจมตีผู้นำของกลุ่มฮามาสในเมืองหลวงของกาตาร์ ซึ่งถือเป็นการกระทำรุกรานที่ได้รับเสียงประณามจากนานาชาติอย่างกว้างขวาง
กลุ่มฮามาสยืนยันว่า สมาชิก 5 คน รวมถึงบุตรชายของผู้นำอาวุโส คาลิล อัล-ไฮยา เสียชีวิตในการโจมตีครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีสมาชิกกองกำลังความมั่นคงของกาตาร์เสียชีวิตอีก 1 คน
นักวิเคราะห์ได้เน้นย้ำประเด็นสำคัญ 5 ประการ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ว่า
1.หลังจากที่อิสราเอลโจมตีกาตาร์ โซเชียลมีเดียก็เต็มไปด้วยข้อความที่ว่า “การประนีประนอม” ไม่ได้ให้ “เกราะป้องกัน” ใด ๆ ต่อการรุกรานของอเมริกาและอิสราเอล และที่จริงแล้ว การทลาย “เกราะป้องกัน” ลง กลับทำให้คุณตกอยู่ในความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น กาตาร์เกือบจะบรรลุถึงจุดสูงสุดของการประนีประนอมกับอเมริกา และแทบจะไม่มีความเป็นปรปักษ์ระหว่างกาตาร์กับสหรัฐอเมริกาเลย แม้แต่อเมริกายังสร้างฐานทัพที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก (อัล-อูเดด) ในกาตาร์ ซึ่งพวกเขาใช้สำหรับการรุกรานทางทหารต่อประเทศอื่น ๆ
กระนั้น สหรัฐอเมริกาก็ประกาศอย่างเป็นทางการว่า รับทราบถึงการโจมตีโดฮาของอิสราเอลแล้ว กล่าวอีกนัยหนึ่ง เช่นเดียวกับการโจมตีของอิสราเอลในอดีต ปฏิบัติการนี้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยไฟเขียว การสนับสนุนอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าต้องมีอุปกรณ์จากอเมริกาด้วย
2. ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อิสราเอลไม่เพียงแต่โจมตีกาตาร์เท่านั้น แต่ยังโจมตีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกหลายแห่งของตุรกีในซีเรียอีกด้วย นั่นหมายความว่า อิสราเอลและสหรัฐฯ ได้แสดงให้ตุรกีและกาตาร์เห็นอย่างเปิดเผยว่า แม้ตุรกีและกาตาร์จะเฉยเมยต่ออิสราเอลและล้มเหลวในการดำเนินการอย่างจริงจังต่อระบอบการปกครองนี้ แต่ก็ยังคงเสี่ยงต่อการถูกคุกคามและการโจมตี
อิสราเอลได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นสุนัขบ้า ซึ่งการประนีประนอมและการไม่ลงมือทำไม่เพียงแต่ไม่สามารถป้องกันการรุกรานได้เท่านั้น แต่ยังทำให้การรุกรานกล้าหาญมากขึ้นอีกด้วย ทำให้มันมีอิสระมากขึ้น
3. ประธานรัฐสภาอิสราเอล เผยแพร่ภาพวิดีโอการโจมตีกาตาร์ โดยกล่าวว่า เป็นการส่งสารถึงตะวันออกกลางทั้งหมด
นี่อาจเป็นหนึ่งในถ้อยแถลงที่เที่ยงตรงและหาได้ยากที่สุดของพวกไซออนิสต์ ชาวเอเชียตะวันตกทุกคนต้องเข้าใจว่า อิสราเอลคือศัตรู และด้วยธรรมชาติที่ป่าเถื่อนโดยกำเนิด ในที่สุดอิสราเอลก็จะไล่ล่าพวกเขา เว้นแต่พวกเขาจะสร้าง “เกราะป้องกัน” ขึ้นมาด้วย “การต่อต้าน” และมีความสามารถที่จะตอบโต้
หากเอเชียตะวันตกโดยรวมไม่ต่อต้านอิสราเอล รัฐบาลจะเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลที่ไม่โต้ตอบทุกชุดทีละชุดอย่างแน่นอน
4. ตอนนี้ทุกคนกำลังรอคอยที่จะเห็นว่า กาตาร์จะมีมาตรการตอบโต้ต่ออิสราเอลอย่างไร มีความหวังว่า กาตาร์จะแสดงท่าทีจริงจัง แม้ว่าจะดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ก็ตาม ในทางทหาร กาตาร์ต้องพึ่งพาสหรัฐอเมริกาโดยสมบูรณ์ ระบบป้องกันทางอากาศของกาตาร์โดยพื้นฐานแล้วเป็นของอเมริกา และแน่นอนว่า ระบบป้องกันของอเมริกาจะไม่ทำหน้าที่ต่อต้านการรุกรานของอิสราเอล ทำให้โดฮากลายเป็นเมืองที่ไร้การป้องกัน
5. ปฏิกิริยาต่าง ๆ ของกาตาร์ในโลกอาหรับจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับการตอบโต้อย่างแข็งกร้าวของอิหร่าน อีกครั้งหนึ่ง โลกอาหรับและอิสลามได้ชั่งน้ำหนักความน่าเชื่อถือของ “การต่อต้าน” กับ “การประนีประนอม” และจะยังคงทำเช่นนั้นต่อไปในอนาคต อิหร่านได้ลงโทษอิสราเอลด้วยขีปนาวุธตอบโต้อย่างรุนแรง แต่กาตาร์จะทำอะไรนอกเหนือจากการประณามหรือไม่? อย่างน้อยก็มีความหวังว่า กาตาร์จะเริ่มมองโลกด้วยมุมมองที่สมจริงมากขึ้น
ที่มา : สำนักข่าวตัสนีม
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่