ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น อนาดูลูรายงานเมื่อวันเสาร์ (13 ก.ย.) ว่า เลบานอนเริ่มดำเนินการตามแผนระยะที่ 4 ในการรวบรวมอาวุธจากค่ายผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์
หนังสือพิมพ์รายวันอันนาฮาร์ รายงานว่า กองทัพเลบานอนเริ่มได้รับมอบอาวุธจากค่ายเบดดาวีทางตอนเหนือของเลบานอน และค่ายเอน อัลฮิลเวห์ ใกล้เมืองไซดอนทางตอนใต้ ขณะเดียวกัน ได้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยรอบค่ายอย่างเข้มงวด
แผนการริเริ่มดังกล่าวดำเนินตามขั้นตอนก่อนหน้านี้ ซึ่งกองทัพได้รวบรวมอาวุธจากค่ายต่าง ๆ หลายแห่ง เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค่ายบูร์จ เอล-บาราจเนห์ ในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของเบรุต เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ค่ายอัร-ราชิดิยาห์, อัล-บัสส์ และ ค่ายบุร์จ อัลชามาลี ใกล้กับเมืองไทร์ และ บูร์จ เอล-บาราจเนห์, มาร์อีเลียส และ ชาติลา เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา
เมื่อเดือนที่แล้ว คณะรัฐมนตรีเลบานอนได้ตัดสินใจจำกัดอาวุธทั้งหมด รวมถึงอาวุธที่กลุ่มฮิซบุลลอฮ์ถือครอง กองทัพได้รับมอบหมายให้ร่างแผนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม และดำเนินการให้สำเร็จก่อนสิ้นปี 2568
อย่างไรก็ตาม เชคนาอิม กอเซ็ม เลขาธิการกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ กล่าวว่า กลุ่มฮิซบุลลอฮ์จะไม่ยอมสละอาวุธ จนกว่าอิสราเอลจะถอนกำลังออกจากดินแดนเลบานอนที่ถูกยึดครอง หยุดการรุกราน ปล่อยตัวนักโทษ และเริ่มการฟื้นฟู
มีการหยุดยิงเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ภายหลังสงครามข้ามพรมแดนระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบุลลอฮ์เป็นเวลานานหลายเดือน และเกิดสงครามเต็มรูปแบบในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567
ภายใต้ข้อตกลงสงบศึก อิสราเอลควรจะถอนกำลังออกจากเลบานอนตอนใต้ทั้งหมดภายในเดือนมกราคม แต่กลับถอนกำลังทหารออกไปเพียงบางส่วนเท่านั้น และยังคงรักษากำลังทหารไว้ที่ด่านชายแดน 5 แห่ง
เลบานอนเป็นเจ้าภาพผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์มากกว่า 493,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้สภาพที่ยากลำบากในค่ายที่บริหารโดยกลุ่มต่าง ๆ ชาวปาเลสไตน์ ตามความเข้าใจอย่างไม่เป็นทางการที่เกิดจากข้อตกลงไคโรในปี ค.ศ. 1969
มากกว่าครึ่งหนึ่งอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ 12 แห่ง ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานสหประชาชาติว่าด้วยผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ (UNRWA) กองทัพเลบานอนและกองกำลังรักษาความปลอดภัยไม่ได้เข้าไปในค่ายเหล่านี้ แต่ใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมดูแล
ที่มา : สำนักข่าว middleeastmonitor
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่