อยาตุลลอฮ์ ซัยยิด อาลี คอเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านกล่าวว่า เป็นสิ่งจำเป็นที่ประเทศมุสลิมจะต้องสามัคคีกันและป้องกันความทุกข์ยากเช่นเดียวกับที่กำลังเกิดขึ้นกับชาวกาซาและประชาชนเยเมน ฮัจญ์อาจเป็นพันธะเดียวที่มีรูปแบบและลักษณะภายนอกและองค์ประกอบของมันเกี่ยวข้องกับการเมือง 100 เปอร์เซ็นต์..
ในสุนทรพจน์ที่กรุงเตหะรานเมื่อวันอาทิตย์ (4 พ.ค.) อยาตุลลอฮ์คอเมเนอี ได้พูดถึงการรวมตัวในพิธีฮัจญ์ประจำปี ซึ่งเป็นการรวมตัวและรวมชาวมุสลิมจากส่วนต่าง ๆ ของโลกเข้าด้วยกัน โดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ สีผิว และวัฒนธรรม
“การประกอบพิธีฮัจญ์เป็นไปเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ และไม่มีประโยชน์ใดสำหรับประชาชาติอิสลามมากไปกว่าความสามัคคี” อยาตุลลอฮ์คอเมเนอี กล่าวกับคณะเจ้าหน้าที่และผู้ดูแลกิจกรรมฮัจญ์ของศาสนาอิสลามที่นครมักกะห์ ซึ่งมุสลิมที่มีความสามารถจะต้องไปอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
ผู้นำกล่าวเสริมว่า “หากประชาคมอิสลามสามัคคีกัน ปัญหาปาเลสไตน์และกาซ่าก็จะไม่เกิดขึ้น และเยเมนก็จะไม่ถูกกดดันแบบนี้”
กาซาเป็นเป้าหมายของการรุกรานอันโหดร้ายของอิสราเอล ซึ่งสังหารผู้คนไปเกือบ 53,000 รายในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 และทิ้งให้ดินแดนนั้นพังยับเยินโดยสิ้นเชิง
เครื่องบินรบของสหรัฐ อังกฤษ และอิสราเอล ได้เปิดฉากโจมตีเยเมนอย่างรุนแรงตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม โดยเป็นการโจมตีครั้งแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่เพิ่มความเข้มข้นในปฏิบัติที่เริ่มต้นโดยรัฐบาลชุดก่อนเมื่อปีที่แล้ว เพื่อหยุดยั้งปฏิบัติการของประเทศอาหรับแห่งนี้ต่ออิสราเอล เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวกาซา
อยาตุลลอฮ์คอเมเนอี เน้นย้ำถึงด้านการเมืองที่เป็นรากฐานของบทบาทของฮัจญ์ โดยกล่าวว่า “แม้จะขัดกับความพยายาม คำพูด และการกระทำของบางคนที่ทำให้ฮัจญ์แปดเปื้อน แต่สาระสำคัญของฮัจญ์ก็คือการเมือง รูปแบบก็คือการเมือง และองค์ประกอบก็คือการเมือง”
ผู้นำกล่าวว่า “ฮัจญ์อาจเป็นพันธะเดียวที่มีรูปแบบและลักษณะภายนอกและองค์ประกอบของมันเกี่ยวข้องกับการเมือง 100 เปอร์เซ็นต์”
“การรวบรวมผู้คนไว้ในสถานที่เดียวกัน ในเวลาเดียวกัน ทุกปี ทุกคนที่ทำได้ แก่นแท้ของการรวมตัวครั้งนี้คือเรื่องการเมือง”
ผู้นำกล่าวว่า การเดินทางเพื่อประกอบพิธีฮัจญ์นั้น ไม่ใช่เพียงการแสวงบุญและการเที่ยวชมสถานที่ทั่ว ๆ ไปเท่านั้น แต่ยังเป็นการ “มีส่วนร่วมในภาคปฏิบัติอันสำคัญยิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดไว้สำหรับการบริหารจัดการมนุษยชาติ ไม่ใช่แค่การบริหารจัดการผู้ศรัทธาและมุสลิมเท่านั้น แต่รวมไปถึงการบริหารจัดการมนุษยชาติด้วย”
อยาตุลลอฮ์คอเมเนอีกล่าวเสริมว่า “ฮัจญ์คือการบริหารจัดการมนุษยชาติ ฮัจญ์ที่แท้จริงคือการรับใช้มนุษยชาติ ไม่ใช่แค่กับตัวคุณเอง ประเทศของคุณ และประชาชาติอิสลามเท่านั้น แต่ยังเป็นการรับใช้มนุษยชาติด้วย”
อยาตุลลอฮ์ คอเมเนอี กล่าวถึงบทบาทและหน้าที่อันโดดเด่นของรัฐบาลอิสลามโดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียในฐานะเจ้าภาพต้อนรับผู้แสวงบุญหลายล้านคน ในการอธิบายถึงเป้าหมายของการประกอบพิธีฮัจญ์
ผู้นำกล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่รัฐ นักวิชาการ ปัญญาชน นักเขียน และผู้มีอิทธิพล ยังมีภาระหน้าที่ต้องเปิดเผยความจริงของพิธีฮัจญ์ให้ประชาชนทราบ
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่