ทรัมป์ร่วมชุมนุมที่อาณาจักรอาหรับ – การทรยศต่อปาเลสไตน์อย่างน่าละอาย
ทรัมป์ร่วมชุมนุมที่อาณาจักรอาหรับ – การทรยศต่อปาเลสไตน์อย่างน่าละอาย

ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับการยอมจำนนอย่างน่าอับอายของเผด็จการอาหรับที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง ซึ่งแข่งขันกันก้มหัวให้กับจักรวรรดินิยมอเมริกาอย่างน่าละอาย ในขณะที่อิหร่านและเยเมนได้กลายมาเป็นพันธมิตรที่มั่นคงและแน่วแน่ในการต่อสู้เพื่อการปลดปล่อยปาเลสไตน์

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในริยาด โดฮา และอาบูดาบี โดยที่ผู้มีอำนาจเผด็จการหัวรุนแรงได้เปิดห้องนิรภัยที่เก็บทรัพย์สินที่ได้มาอย่างมิชอบโดยไม่ละอาย เพื่อส่งมอบเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ให้กับผู้นำที่คาดเดาได้ยากที่สุดในโลกอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะเดียวกัน ผู้คนนับล้านที่อยู่ไปไม่ไกลในฉนวนกาซา ต้องทนทุกข์ทรมานจากการขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม และยา ซึ่งเป็นผลมาจากการที่อเมริกาสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อิสราเอลโดยตรง ถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกใจ แต่ก็สามารถคาดเดาได้อย่างไม่น่าแปลกใจ

    ไม่ว่าจะเป็นมูฮัมมัด บิน ซัลมาน (MbS) แห่งราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย หรือมูฮัมมัด บิน ซายิด (MbZ) แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยกเว้นทามิม บิน ฮามัด อัล ธานี แห่งกาตาร์ ซึ่งรู้กันว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “การเจรจาตัวประกัน” กับผู้นำฮามาส พวกเขาทั้งหมดต่างแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นมิตรต่อการแสวงหาอิสรภาพของปาเลสไตน์

    ในช่วงเวลาที่คนทั้งโลกรับรู้เป็นอย่างดีว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้ไปถึงระดับการทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของสงคราม ความขัดแย้ง และความโหดร้าย เทียบได้กับเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรืออาจจะแย่กว่านั้นด้วยซ้ำ ผู้นำเผด็จการอาหรับได้ให้การต้อนรับทรัมป์และผู้ติดตามอย่างพึงพอใจด้วยวิธีการที่หรูหราที่สุดเท่าที่จินตนาการได้

    อลอน มิซราฮี ผู้ที่กล่าวถึงตัวเองว่า เป็น “ชาวยิวอาหรับที่ต่อต้านไซออนิสต์” ได้ยืนยันในรายการ “มุมมองของมิซราฮี” (Mizrahi Perspective) ตอนล่าสุดว่า “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของนาซีเกิดขึ้นในความมืดมิด และมนุษยชาติส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นหรือรู้เรื่องนี้แบบเรียลไทม์” และยังกล่าวอีกว่า “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ฉนวนกาซาได้รับการถ่ายทอดสดให้คนทั้งโลกได้รับชม”

    เรื่องนี้ไม่ทำให้เกิดคำถามที่น่ากังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับระดับของการปราบปรามและการขาดเสรีภาพในการพูดภายในระบอบการปกครองอาหรับ หรือทำไมประชากรของพวกเขาถึงยังคงนิ่งเฉยและไม่หวั่นไหว ทั้งที่รู้ดีถึงการสังหารหมู่ญาติพี่น้องของพวกเขาอย่างนองเลือด?

    ในฐานะรัฐบริวารของจักรวรรดิสหรัฐฯ ระบอบการปกครองเหล่านี้อาจสวมเพียงเปลือกนอกของคำว่า “เอกราช” แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาห่างไกลจากความมีนัยยะของอำนาจอธิปไตยใด ๆ เลยหากปราศจากการคว่ำบาตรจากอเมริกา

    ความจริงที่ว่า การรักษาความปลอดภัยบัลลังก์ที่เคลือบทองนั้นถูกส่งไปให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ดูแลนั้น เห็นได้จากการที่สหรัฐฯ มีฐานทัพทหารที่แข็งแกร่งไม่น้อยกว่า 19 แห่ง ซึ่ง 8 แห่งนั้นถือเป็นฐานทัพถาวรตามความเห็นของนักวิเคราะห์ระดับภูมิภาคหลายคน ในประเทศต่าง ๆ เช่น บาห์เรน อียิปต์ อิรัก อิสราเอล จอร์แดน คูเวต กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย ซีเรีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตามที่แหล่งข่าวต่าง ๆ เช่น Council on Foreign Relations อ้างอิง

    ตามข้อมูลของ American Security Project กองกำลังทหารของสหรัฐฯ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในภูมิภาคเหล่านี้เท่านั้น สหรัฐฯ ยังมีฐานทัพสำคัญในจิบูตีและตุรกีด้วย แม้ว่าฐานทัพเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งของกองบัญชาการในภูมิภาคอื่น ๆ แต่ฐานทัพเหล่านี้ก็มีส่วนสนับสนุนการปฏิบัติการของวอชิงตันในเอเชียตะวันตกอย่างมาก

    เหตุการณ์นี้เปิดเผยอย่างชัดเจนถึงปริศนาที่รุมเร้าอาณาจักรต่าง ๆ ในอ่าวเปอร์เซียที่สร้างขึ้นในยุคอาณานิคม ซึ่งแม้อาณาจักรเหล่านี้จะมีอำนาจที่ไร้การควบคุม ความมั่งคั่งมหาศาล และชื่อเสียงระดับโลก แต่อาณาจักรเหล่านี้ยังคงถูกพันธนาการอยู่ภายใต้แอกของอำนาจครอบงำของอเมริกา

    การแสดงออกอย่างฟุ่มเฟือยของทรัมป์จึงไม่เพียงแต่เป็นการยืนยันต่อสาธารณะว่าสหรัฐฯ ยอมจำนนต่ออำนาจของสหรัฐฯ โดยเจ้าบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ ขาดเจตจำนงที่จะท้าทายเขา หรือขาดความกล้าที่จะ "ใช้" เงินจำนวนนับล้านล้านของพวกเขาอย่างไม่เกรงกลัว เพื่อเรียกร้องอย่างทันทีและไม่มีเงื่อนไขให้ยุติการอาละวาดอันชั่วร้ายของเนทันยาฮูในฉนวนกาซา

    สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านและเยเมนยืนหยัดเป็นประภาคารแห่งความหวังสำหรับปาเลสไตน์ ซึ่งต่อต้านการทรยศหักหลังร่วมกันของเผด็จการอาหรับ รวมทั้งอียิปต์และจอร์แดน

    แม้จะเผชิญกับการโดดเดี่ยวและการคว่ำบาตรที่โหดร้ายมานานหลายสิบปี อิหร่านก็ยังไม่ยอมจำนนต่อแรงกดดันของอเมริกาที่จะยุติการสนับสนุนกลุ่มต่อต้านของชาวปาเลสไตน์ที่นำโดยกลุ่มฮามาสและกลุ่มอิสลามิกญิฮาด

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มูฮัมมัด บาเกอร์ กาลีบาฟ ประธานรัฐสภาอิหร่าน ออกแถลงการณ์เรียกร้องอย่างเร่งด่วนต่อโลกมุสลิมให้เสริมสร้างความสามัคคีและเปล่งเสียงปกป้องชาวปาเลสไตน์ที่ถูกกดขี่

    กาลีบาฟ ได้กล่าวกับผู้มาร่วมชุมนุมในวันศุกร์ที่มัสยิดอิสติกลัลในจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียว่า เป็นหน้าที่และความจำเป็นทางศีลธรรมที่จะต้องไม่ยอมให้ “ความเย่อหยิ่งทั่วโลก” ก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ต่อไป

    ข้อความของเขาดังก้องกังวาน และเราหวังว่า เสียงข้อความดังกล่าวจะไปถึงห้องชั้นในของพันธมิตรของทรัมป์ในอ่าวเปอร์เซีย “วันนี้ ประชาชนในฉนวนกาซา รวมถึงเด็ก ผู้หญิง และผู้ป่วย ต่างคาดหวังว่า เราจะอยู่เคียงข้างพวกเขา พวกเขาต้องการให้เราเป็นกระบอกเสียงของผู้ถูกกดขี่ และไม่ทิ้งพวกเขาไว้ตามลำพังในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้”

    วันนี้ เขาสังเกตว่า ชาวมุสลิมทั่วโลก และแน่นอน รวมทั้งผู้คนที่แสวงหาอิสรภาพทุกคน ยืนหยัดอย่างมั่นคงเพื่อสนับสนุนการเรียกร้องของอิมาม โคมัยนี ร.ฮ. ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐอิสลามผู้ล่วงลับ) เพื่อต่อต้าน “เนื้องอกมะเร็ง” ที่เรียกว่า อิสราเอล

    เขายังเน้นย้ำอีกว่า ชาวอิหร่านสนับสนุนชาวปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่อง และพวกเขาจะไม่เลิกทำเช่นนั้น ไม่ว่าจะถูกคุกคามหรือกดดันอย่างไรก็ตาม

    แม้ว่ากลุ่มฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนจะได้เสียสละอย่างยิ่งใหญ่เพื่อปกป้องปาเลสไตน์ รวมทั้งการสูญเสียผู้นำที่เคารพอย่างชะฮีดซัยยิด ฮัสซัน นัสรุลลอฮ์ อย่างน่าสลดใจ แต่ก็ยังได้รับความชื่นชมอย่างเต็มเปี่ยมในการยืนหยัดอย่างมั่นคงในจุดยืนที่เป็นหลักการของตน แม้จะเกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้ก็ตาม

    ความยินดีและความพึงพอใจอย่างเปิดเผยที่ผู้เผด็จการอาหรับจำนวนมากแบ่งปันกับอิสราเอลระหว่างการทิ้งระเบิดพรมในเบรุตและเลบานอนตอนใต้ไม่ใช่บันทึกแห่งเกียรติยศ แต่เป็นบันทึกแห่งความอัปยศ

    ศักดิ์ศรีที่แสดงให้เห็นโดยความกล้าหาญของอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องแลกมาด้วยวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายของเยเมนเองนั้น ถือเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความขี้ขลาดที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในงานเฉลิมฉลองของทรัมป์


บทความ : อิคบัล จาสซัต

ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 218 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

26248825
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
186
7990
25692
26182758
101531
177228
26248825

พฤ 19 มิ.ย. 2025 :: 00:21:18