ผู้บัญชาการ IRGC กล่าวว่า อิหร่านจะโจมตีทุกเป้าหมาย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน
ผู้บัญชาการ IRGC กล่าวว่า อิหร่านจะโจมตีทุกเป้าหมาย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน

พลเอก ฮุสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน (IRGC) กล่าวว่า อิหร่านจะโต้กลับด้วยการโจมตีจุดใดก็ตามที่ศัตรูโจมตีประเทศเรา ตามหลักคำสอนด้านการป้องกันประเทศของเรา  

    คำเตือนของพลเอกซาลามีระหว่างการเปิดตัวโรงเก็บโดรนใต้ดินของกองทัพเรือ IRGC เมื่อวันพฤหัสบดี (8 พ.ค.) ที่ผ่านมา เกิดขึ้นท่ามกลางภัยคุกคามจากสหรัฐฯ และอิสราเอลที่จะโจมตีโรงงานพลังงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 

    นายพลซาลามีกล่าวว่า “หลักการประการหนึ่งในหลักคำสอนด้านการป้องกันประเทศของเราคือ ไม่ว่าจุดใดก็ตามที่ศัตรูของเรากระทำการที่ขัดต่อผลประโยชน์และเป้าหมายของเรา เราจะมุ่งเป้าและโจมตีจุดนั้นและจุดอื่น ๆ ที่ผลประโยชน์ของศัตรูตั้งอยู่”

    นายพลซาลามีกล่าวเสริมว่า “ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ เราจึงประกาศว่า จุดใด ๆ ในดินแดนใด ๆ ที่กลายเป็นต้นทางของการรุกรานนั้น จะเป็นเป้าหมายของการรุกรานสำหรับเรา นั่นหมายความว่าจุดต้นทางนั้นจะกลายเป็นเป้าหมาย”

    นายพลซาลามี ยืนยันกับชาวอิหร่านว่า กองทัพอิหร่านมีศักยภาพเพียงพอที่จะรับมือกับภัยคุกคามต่าง ๆ ได้ เขากล่าวอีกว่า “ชาติอันเป็นที่รักของเราควรทราบว่า เรายืนหยัดต่อสู้กับศัตรูอย่างเต็มที่”

    โรงเก็บโดรนใต้ดินซึ่งเปิดตัวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถือเป็นโรงเก็บโดรนแห่งล่าสุดที่มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งจัดแสดงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่เป็นมิตรจากอิสราเอลและสหรัฐฯ ที่ขู่ว่า จะใช้มาตรการทางทหารกับเตหะรานเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์

    นายพลซาลามีกล่าวว่า “สิ่งที่ชาติอิหร่านอันเป็นที่รักกำลังพบเห็นในวันนี้เป็นเพียงความสามารถส่วนเล็ก ๆ ของศักยภาพโดรนของกองทัพเรือ IRGC ที่มีอย่างมหาศาล”

    “โดรนที่ใช้สำหรับกองกำลังนี้ถือเป็นเทคโนโลยีโดรนที่ทันสมัยและก้าวล้ำที่สุดในโลก ช่วยให้ผู้บัญชาการของเรามีอิสระในการโจมตีรูปแบบต่าง ๆ และยังมีความยืดหยุ่นในการวางแผนอีกด้วย”

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อิสราเอล แคทซ์ รัฐมนตรีกระทรวงการทหารของอิสราเอล ขู่อิหร่านว่าจะดำเนินการในลักษณะเดียวกับที่ทำกับกาซา ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดกับเยเมน ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อิสราเอลกล่าวหาอิหร่านว่า ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่กองกำลังติดอาวุธของเยเมน 

    นายพลซาลามีกล่าวว่า “อีกแง่มุมหนึ่งของการแสดงอำนาจของเราคือการแก้ไขการประเมินผิดและความผิดพลาดของศัตรู”

   “นั่นก็เพราะว่าศัตรูของเราจำเป็นต้องคุ้นเคยกับความเป็นจริงของอำนาจของเราในระดับหนึ่ง เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่รีบด่วนคิดคำนวณหรือตัดสินผิดพลาดเพียงเพราะไม่รู้ขอบเขตอำนาจของเรา และจะได้ไม่กระทำการใด ๆ ที่จะก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเอง”

    เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขายินดีที่จะบรรลุข้อตกลงกับเตหะราน ซึ่งจะอนุญาตให้สหรัฐฯ "ระเบิด" โรงงานพลังงานนิวเคลียร์ของอิหร่านได้

    “เรื่องมันก็เท่านั้น” เขากล่าวระหว่างแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับฮิวจ์ ฮิววิตต์ พิธีกรรายการวิทยุแนวอนุรักษ์นิยม “ผมอยากได้ข้อตกลงที่เข้มแข็งและได้รับการยืนยันมากกว่า โดยที่เราทำลายพวกมันทิ้งจริงๆ…” ทรัมป์กล่าวโดยอ้างถึงโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน

    ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังกล่าวเสริมด้วยว่า ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มีเพียง 2 ประการ คือ “ระเบิดพวกเขาให้ดูดีหรือระเบิดพวกเขาอย่างรุนแรง”

    วันพฤหัสบดีก่อนหน้านี้ นายพลซาลามีกล่าวว่า แม้ว่าอิหร่านจะให้ความสำคัญกับการทูตในประเด็นนิวเคลียร์ โดยแสวงหาแนวทางแก้ไขที่เป็นธรรมโดยไม่ใช้การคุกคาม แต่อิหร่านยังคงเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับสงครามในทุกระดับ

    เขากล่าวในงานในเมืองมัชฮัด ว่า “คนอเมริกันควรจะรู้ว่าหากพวกเขาคุกคามเรา เราก็เตรียมพร้อมทำสงครามในทุกระดับ”

    สหรัฐฯ และอิหร่านได้จัดการเจรจากันมาแล้ว 3 รอบตั้งแต่วันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนการเจรจารอบที่ 4 ซึ่งเดิมกำหนดไว้ในวันที่ 3 พฤษภาคม ถูกเลื่อนออกไปเนื่องจาก “เหตุผลด้านลอจิสติกส์” ตามที่โอมาน ผู้ไกล่เกลี่ยระบุ

    นายพลซาลามีกล่าวว่า “ด้วยภัยคุกคามและการคว่ำบาตรใหม่นี้ แสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกัน ไม่น่าเชื่อถือและไม่น่าไว้วางใจ” 

    หัวหน้า IRGC เน้นย้ำว่า อิหร่านไม่ได้แสวงหาอาวุธนิวเคลียร์ และได้ถอนอาวุธนิวเคลียร์ออกจากหลักคำสอนด้านการป้องกันประเทศโดยสมัครใจแล้ว

    พลเอกซาลามีกล่าวว่า อิหร่านจะไม่ละทิ้งผลประโยชน์ที่สำคัญของตน และเตือนว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ซึ่งเป็น “อาชญากร” กำลังพยายามโน้มน้าวจิตใจเจ้าหน้าที่อเมริกันและลากพวกเขาเข้าสู่สงครามที่ไม่มีวันจบสิ้น

    ตามที่ซาลามีกล่าวชาวอเมริกันต้องประสบกับผลร้ายแรงจากการแทรกแซงจากต่างชาติ และต้องใช้สติปัญญาด้วยการปฏิเสธ "คำโกหกที่หลอกลวงของนายกรัฐมนตรีของระบอบไซออนิสต์ และเลือกทางเลือกที่รอบคอบแทน"

    เขาเตือนอิสราเอลและศัตรูอื่น ๆ ว่า "การละเมิดใด ๆ จะส่งผลให้เกิดไฟนรกโจมตีพวกเขา และการโจมตีตอบโต้จะรุนแรงถึงขั้นบดบังปฏิบัติการ True Promise 1 และ 2"

    อิหร่านเปิดตัวปฏิบัติการคำสัญญาที่แท้จริง ( True Promise 1) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2024 โดยโจมตีฐานทัพทหารและหน่วยข่าวกรองสำคัญของอิสราเอลด้วยขีปนาวุธ ปฏิบัติการทรูพรอมิส 1 เป็นการโจมตีทางทหารโดยตรงครั้งแรกของอิหร่านต่ออิสราเอล ดำเนินการเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2024

    พลเอกซาลามีกล่าวว่า “พวกเราบอกเจ้าหน้าที่ของระบอบการปกครองอิสราเอลที่กำลังยึดอำนาจว่า พวกคุณที่ไม่สามารถทนต่อการโจมตีด้วยขีปนาวุธแม้แต่ครั้งเดียวจากกลุ่มอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนที่สนามบินของคุณได้ พวกคุณจะสามารถทนต่อขีปนาวุธนับร้อยนับพันลูกได้อย่างไร”

    การโจมตีด้วยขีปนาวุธของเยเมนเมื่อวันอาทิตยี่ผ่านมา สามารถหลบหลีกระบบป้องกันทางอากาศ 4 ชั้น และตกลงในใจกลางสนามบินหลักใกล้กับเทลอาวีฟ  

    ยะห์ยา ซารีอ์ โฆษกกองทัพเยเมน กล่าวในแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า ปฏิบัติการทางทหารโจมตีสนามบินสำคัญของอิสราเอลได้ดำเนินการโดยใช้ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง และ “โจมตีเป้าหมายได้สำเร็จ”


ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 99 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

26010997
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
3525
4140
26105
25951709
40931
157882
26010997

ศ 09 พ.ค. 2025 :: 19:18:29