ความขัดแย้งครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ ที่ต้อนรับอาบู มุฮัมมัด อัล-โจลานี ซึ่งสหรัฐฯ เคยตั้งรางวัลนำจับไว้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมเขาเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา สร้างความประหลาดใจให้กับหลายประเทศ
เมื่อปีที่แล้ว หากอาบู มุฮัมมัด อัล-โจลานี หัวหน้ากลุ่มก่อการร้ายฮัยอัต ตาห์รีร์ อัลชามในซีเรีย พยายามเดินทางไปนิวยอร์ก เขาอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกจับกุม เนื่องจากสหรัฐฯ ได้ตั้งรางวัลนำจับ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลจนนำไปสู่การจับกุมเขา เนื่องจากกิจกรรมของเขาใน กลุ่มแนวร่วมอัล นุสรา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ฮัยอัต ตาห์รีร์ อัลชาม และความเกี่ยวพันกับกลุ่มก่อการร้ายอัล กออิดะห์
แต่วันนี้ โจลานีอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ การเดินทางครั้งนี้ดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งต่างแสดงปฏิกิริยาอย่างกว้างขวางต่อการมาถึงของโจลานีในนิวยอร์ก บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X (เดิมคือ Twitter) ผู้ใช้ต่างบรรยายถึงการปรากฏตัวของ อาบู มุฮัมมัด อัล-โจลานี จากเรือนจำอเมริกันในอิรักไปยังเวทีของสหประชาชาติว่าเป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่และเป็นความขัดแย้งที่เห็นได้ชัด
แน่นอนว่าการเดินทางไปนิวยอร์กของโจลานีไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือโชคช่วย ผู้ใช้รายหนึ่งกล่าวว่า โจลานีเป็นที่ต้องการตัวอย่างเป็นทางการของสหรัฐอเมริกา และเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ.2556 ชื่อของเขาถูกเพิ่มเข้าไปในรายชื่อผู้ต้องสงสัย และในวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 2560วอชิงตันได้ประกาศรางวัล 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมเขา แต่ในวันนี้ วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2568 โจลานี ปรากฏตัวอยู่ในสหรัฐอเมริกา ผู้ใช้รายหนึ่งกล่าวว่า ประเทศที่เคยกำหนดรางวัล 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับการตัดศีรษะของโจลานี ตอนนี้กำลังต้อนรับเขาด้วยพรมแดงในเมืองหลวง
เพื่อทำความเข้าใจกับความประหลาดใจของผู้ใช้ที่มีต่อการปรากฏตัวของโจลานีในนิวยอร์ก ควรพิจารณาอดีตของเขาและวิธีที่สหรัฐฯ จัดการกับเขาอย่างคร่าว ๆ หลังจากการรุกรานอิรักของสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2546 โจลานีเดินทางไปอิรักและพำนักอยู่ที่เมืองโมซูลระยะหนึ่ง ต่อสู้ร่วมกับกลุ่มอัล กออิดะห์ ภายใต้การบังคับบัญชาของอาบู มูซาบ อัล-ซาร์กาวี และผู้สืบทอดตำแหน่งหลายคน จนกระทั่งสหรัฐฯ จับกุมเขาและส่งตัวไปยังเรือนจำ อาบู กราอิบ จากนั้นเขาถูกส่งตัวไปยังค่ายบักกา และเรือนจำครอปเปอร์ที่สนามบินแบกแดด ต่อมา สหรัฐฯ ได้ส่งมอบโจลานีให้กับรัฐบาลอิรัก ซึ่งส่งตัวเขาไปยังเรือนจำอัล-ทาจี จนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวในปี พ.ศ. 2551
ดังที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบัน ประกาศระหว่างการหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีกับฮิลลารี คลินตัน ว่า สหรัฐอเมริกาเป็นปัจจัยหลักเบื้องหลังการเติบโตของกลุ่มก่อการร้าย ไอซิส ในภูมิภาคนี้ แม้ว่า ต่อมาจะเปลี่ยนนโยบายเป็นการแสดงความเป็นปรปักษ์ต่อกลุ่มนี้ก็ตาม อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เป็นเพียงทฤษฎี แต่ในความเป็นจริง ผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ มักจะสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ก่อให้เกิดความไม่มั่นคงและการแตกแยกในประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค รวมถึงซีเรีย
โจลานี กลับมาดำเนินกิจกรรมก่อการร้ายอีกครั้งกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ตักฟีรี ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 ภายใต้การนำของอาบู บักร์ อัล-บักดาดี เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของกลุ่มก่อการร้ายนี้ในจังหวัดโมซุลทันที ในช่วงเริ่มต้นของความขัดแย้งในซีเรียในปี พ.ศ. 2554 โจลานีได้ติดต่อกับอัล-บักดาดี และพวกเขาตกลงกันว่า โจลานีจะรับผิดชอบดูแลซีเรียและจัดตั้งสาขาของ ไอซิส (ISIL) ในประเทศ
อัล-บักดาดี ยังสั่งให้โจลานี ต่อสู้กับรัฐบาลซีเรียและโค่นล้มบาชาร์ อัล-อัสซาด โจลานีเดินทางเข้าประเทศพร้อมกับทหารหกนาย และภายในหนึ่งปี เขาสามารถรวบรวมนักรบได้ 5,000 นาย และเคลื่อนกำลังไปทั่วพื้นที่กว้างใหญ่ของซีเรีย การโฆษณาชวนเชื่อของสื่อทั้งสหรัฐฯ และตะวันตกมีบทบาทสำคัญในการปลุกปั่นความคิดเห็นของประชาชนชาวซีเรียในขณะนั้นให้ต่อต้านรัฐบาลกลางของบาชาร์ อัล-อัสซาด ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2555 โจลานีประกาศจัดตั้งกลุ่มก่อการร้าย “จาบัต อัล-นุสรา ลี-อะห์ล อัล-ชาม” ในแถลงการณ์ โดยกำหนดให้หมู่บ้านอัล-ชูฮัยล์ เป็นฐานปฏิบัติการ เขายังเรียกร้องให้ชาวซีเรียจับอาวุธและต่อสู้เพื่อโค่นล้มรัฐบาลซีเรียอีกด้วย
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2556 อาบู บักร์ อัล บักดาดี ได้ประกาศควบรวมกลุ่มไอซิส (ISIS) และกลุ่ม จาบัต อัล-นุสรา เข้าเป็นองค์กรใหม่ที่เรียกว่า “รัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์” (ISIL) แต่โจลานีปฏิเสธการควบรวมดังกล่าว และต่อมาได้ประกาศคำมั่นสัญญาที่จะจงรักภักดีต่อ อัยมัน อัล-ซาวาฮิรี ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์
หลังจากที่โจลานี ให้คำมั่นสัญญาที่จะจงรักภักดีต่ออัลกออิดะห์ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เพิ่มองค์กรนี้เข้าไปในรายชื่อกลุ่มก่อการร้าย ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2556 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า โจลานีเป็น "ผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศ" ยึดทรัพย์สินของเขา และห้ามพลเมืองอเมริกันติดต่อเขา
ต่อมาคณะกรรมการคว่ำบาตรกลุ่มไอซิส ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เพิ่มชื่อโจลานี ไว้ในรายชื่อผู้ก่อการร้าย ห้ามเดินทาง และห้ามพกพาอาวุธ
เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศรางวัล 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนหรือค้นหาโจลานีได้ รางวัลนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่หน่วยข่าวกรองและความมั่นคงของสหรัฐฯ สนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในช่วงความพยายามก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลของบาชาร์ อัล-อัสซาด ในซีเรีย ก็ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนเช่นกัน
นั่นคือเหตุผลที่หลังจากโจลานีขึ้นสู่อำนาจในซีเรียเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และการล่มสลายของรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาด สหรัฐฯ จึงเพิกถอนเงินรางวัล และกระทรวงการต่างประเทศประกาศว่า โจลานี ได้รับแจ้งว่าไม่มีรางวัล 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการจับกุมเขาอีกต่อไป ถึงกระนั้น ชาวอเมริกันก็ยังไม่ได้คำตอบว่าเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้ก่อการร้ายที่เพิ่งได้รับเงินรางวัล 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อวานนี้ กลับเดินพรมแดงในนิวยอร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติและกล่าวปราศรัยต่อโลกในวันนี้ !
ที่มา : สำนักข่าวเพรสทีวี
Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่