ท่ามกลางความรุนแรงทางศาสนาที่แพร่หลาย มีผู้เสียชีวิต 9 รายในซีเรีย ภายใน 24 ชั่วโมง
ท่ามกลางความรุนแรงทางศาสนาที่แพร่หลาย มีผู้เสียชีวิต 9 รายในซีเรีย ภายใน 24 ชั่วโมง

ภายหลังที่อดีตผู้บัญชาการกลุ่มตักฟีรี อาบู มุฮัมมัด อัล โจลานี ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิสราเอล เข้ายึดครองประเทศ ความรุนแรงยังคงแผ่ขยายไปทั่วประเทศ มีผู้เสียชีวิตมากถึง 9 ราย รวมทั้งชายชาวมุสลิมชีอะห์ 1 ราย และชาวอาเลวี 4 ราย ทั่วซีเรีย

    องค์กรสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรีย (SOHR) ซึ่งเป็นองค์กรเฝ้าระวังที่มีสำนักงานอยู่ในสหราชอาณาจักร รายงานว่า การเสียชีวิตดังกล่าวเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ (28 ก.ย.)

    รายงานระบุว่า มีผู้โจมตีนิรนามยิงชายหนุ่มชาวมุสลิมชีอะห์เสียชีวิตในเมืองโฮมส์ ทางตะวันตกของซีเรีย

    คนร้ายที่ไม่ทราบชื่อยังได้ “ยิงและสังหาร” ชาวบ้านจากชุมชนอลาวี อีก 4 ราย ขณะที่เหยื่อกำลังเดินทางกลับจากที่ทำงานในหมู่บ้านจาดริน ในเขตชานเมืองของเมืองฮามา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศซีเรียเช่นกัน โดยอ้างแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ว่า เหยื่อเคยทำงานก่อสร้าง

     รายงานระบุว่า ความรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นหลังจาก “กองกำลังรักษาความปลอดภัยทั่วไป” ของระบอบการปกครองที่นำโดยโจลานี เคลื่อนย้ายจุดตรวจรักษาความปลอดภัยออกจากหมู่บ้าน

    ในส่วนพื้นที่อื่น ๆ ของซีเรีย พบศพชายหนุ่มจากเมืองอัลมาลิฮา อัลการ์บียา ทางชนบททางตะวันออกของเมืองดารา ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในเมืองหลวงดามัสกัส บนทางหลวงระหว่างเมืองและเมืองหลวง ใกล้กับมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง

    มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย ในจังหวัดอาเลปโปและอิดลิบทางตะวันตกเฉียงเหนือ

    ความรุนแรงทางศาสนาได้แพร่ระบาดไปทั่วซีเรียตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เมื่อโจลานี อดีตผู้บัญชาการไอซิสและอัลกออิดะห์ และกลุ่มฮัยอัต ตะฮ์รีร์ อัลชาม (HTS) ของเขา ได้โค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาดในอดีตลงได้

    การเข้ายึดครองครั้งนี้เกิดขึ้นจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากฝีมือของกลุ่มฮัยอัต ตะฮ์รีร์ อัลชาม (HTS) ซึ่งถูกกองกำลังรักษาความปลอดภัยและทหารของอัสซาดรุมล้อมไว้เป็นบริเวณส่วนใหญ่ในจังหวัดอิดลิบ เพื่อตอบโต้ต่อความรุนแรงในเขตตักฟีรีที่กลุ่มนี้ก่อขึ้นเป็นเวลานานหลายปีทั่วประเทศซีเรีย

    พร้อมกันกับการยึดครองซีเรีย ระบอบการปกครองของอิสราเอลได้เพิ่มระดับการโจมตีซีเรียอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารและพลเรือนของประเทศ

    ความรุนแรงทางศาสนาได้สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ที่สุดต่อชุมชนอลาวี ซึ่งเป็นชุมชนที่อัสซาดเคยอาศัยอยู่ โดยมีการสืบสวนที่น่าเชื่อถือซึ่งบันทึกการสังหารหมู่ การลักพาตัว และการอพยพ

    คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของรัฐบาลซีเรียยืนยันว่า มีพลเรือนชาวอลาวีมากกว่า 1,400 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก เสียชีวิตในพื้นที่ชายฝั่งในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียว ท่ามกลางรายงานบ้านเรือนถูกเผา ปล้นสะดม และหมิ่นประมาททางศาสนา

    รายงานยังระบุถึงการโจมตีชาวมุสลิมชีอะห์ โดยกลุ่มติดอาวุธอ้างความรับผิดชอบอย่างชัดเจนต่อการโจมตีพลเรือนชาวชีอะห์และอาลาวี

    ในขณะเดียวกัน โจลานีได้รับการยอมรับทางการเมืองมากขึ้นเรื่อย ๆ จากระบอบการปกครองอิสราเอลและพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ซึ่งก็คือสหรัฐอเมริกา โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยพบกับเขาอย่างน้อยสองครั้ง และเรียกเขาว่า "นักสู้" และเป็นบุคคลที่มี "อดีตที่แข็งแกร่งมาก"


ที่มา : สำนักข่าว เพรสทีวี

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่

ผู้เยี่ยมชมอยู่ขณะนี้

มี 94 ผู้มาเยือน และ ไม่มีสมาชิกออนไลน์ ออนไลน์

27842374
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
5349
8828
39598
27745964
32325
263086
27842374

พฤ 04 ธ.ค. 2025 :: 20:46:42