นักเคลื่อนไหวบนเรือ Global Sumud Flotilla ซึ่งเป็นขบวนช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากหลายประเทศ ได้ประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่า ขณะนี้กองเรือของพวกเขาอยู่ห่างจากชายฝั่งกาซาประมาณ 160 ไมล์ทะเล โดยกำลังเข้าสู่ "เขตเสี่ยงสูง" ที่กำหนดขึ้น โดยภารกิจให้ความช่วยเหลือก่อนหน้านี้ถูกสกัดกั้นหรือโจมตีโดยกองกำลังยึดครองของอิสราเอล

    กองเรือนี้ ซึ่งได้ชื่อมาจากคำว่า "ซูมุด" ในภาษาอาหรับ ซึ่งหมายถึงความมั่นคงหรือความยืดหยุ่น เป็นความพยายามทางทะเลที่นำโดยพลเรือนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา กองเรือนี้ประกอบด้วยเรือมากกว่า 50 ลำ และมีผู้เข้าร่วมหลายพันคนจากกว่า 44 ประเทศ กองเรือนี้มีนักเคลื่อนไหวมากกว่า 500 คน

    ภารกิจนี้เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2568 ท่ามกลางวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงขึ้นในฉนวนกาซา โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็น รวมถึงอาหาร เวชภัณฑ์ และสิ่งของบรรเทาทุกข์อื่น ๆ ขณะเดียวกันก็ท้าทายการปิดล้อมทางทะเลของอิสราเอลในฉนวนกาซา

    ในการอัปเดตอย่างเร่งด่วน ผู้จัดงานเตือนว่า กองเรืออาจเผชิญกับการโจมตีของอิสราเอลเร็วที่สุดในคืนนี้หรือพรุ่งนี้ โดยเรียกร้องให้พลเมืองโลกกดดันรัฐบาลของตนเพื่อให้เดินทางได้อย่างปลอดภัย

    “การโจมตีกองเรือ คือการโจมตีปาเลสไตน์” แถลงการณ์ดังกล่าวเน้นย้ำ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญเชิงสัญลักษณ์และเชิงปฏิบัติของภารกิจในการช่วยเหลือประชาชนชาวกาซากว่า 2 ล้านคน ซึ่งยังคงประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ การรักษาพยาบาล และสิ่งจำเป็นพื้นฐานอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการปิดล้อมอันโหดร้ายของอิสราเอลที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550

    นักเคลื่อนไหวย้ำว่า การทำลายการปิดล้อมเป็น "หน้าที่ทางศีลธรรมและทางกฎหมาย" ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และปฏิเสธที่จะละทิ้งแนวทางของตน แม้จะเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นก็ตาม

    ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เรือต่าง ๆ รายงานว่า มีการโจมตีด้วยโดรนของอิสราเอลหลายครั้งในน่านน้ำสากล รวมถึงถูกโจมตีนอกชายฝั่งของตูนิเซียและกรีซในเดือนกันยายน พ.ศ. 2568 ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์วางเพลิง ระเบิดเสียง และอาวุธอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดไฟไหม้แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    ผู้จัดงานและผู้สนับสนุนกองเรือ รวมทั้ง ฟรานเชสกา อัลบาเนเซ ผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีการคุ้มครองระหว่างประเทศ

    เจ้าหน้าที่อิสราเอล รวมถึงรัฐมนตรีสายเหยี่ยว อิตามาร์ เบน-กวีร์ ได้ให้คำมั่นว่า จะป้องกันไม่ให้ขบวนเรือดังกล่าวไปถึงฉนวนกาซา โดยกล่าวหาว่า ผู้เข้าร่วมขบวนเป็นผู้ก่อการร้ายที่อาจเกิดขึ้น และเสนอที่จะยึดเรือและคุมขังนักเคลื่อนไหว

    โฆษกกองเรือได้ปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่ไม่มีมูลของอิสราเอล โดยมองว่าเป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อเพื่อหาเหตุผลในการรุกราน

    อิตาลีประกาศเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568 ว่า กองทัพเรือจะถอนเรือคุ้มกันออกทันทีที่กองเรือไปถึงระยะทาง 150 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งฉนวนกาซา โดยอ้างถึงความเสี่ยงที่จะเกิด "เหตุการณ์ทางการทูต" กับอิสราเอล

    กีโด โครเซตโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอิตาลี ออกคำร้องขอครั้งสุดท้ายให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวส่งความช่วยเหลือไปยังไซปรัส แต่ข้อเสนอดังกล่าวถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยผู้จัดงาน

    “นี่ไม่ใช่การปกป้องแต่เป็นการทำลายภารกิจของกองเรือ” นักเคลื่อนไหวตอบโต้ พร้อมประณามจุดยืนของรัฐบาลอิตาลีว่า สมรู้ร่วมคิดในการปิดล้อม

    ก่อนหน้านี้ สเปนก็ให้การสนับสนุนทางเรือเช่นกัน แต่ขณะนี้ กองเรือกลับเดินหน้าต่อไปโดยไม่มีเรือคุ้มกัน ทำให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการเผชิญหน้ากัน

    บุคคลสำคัญที่อยู่บนเรือหรือสนับสนุนภารกิจนี้ ได้แก่ เกรตา ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งกล่าวว่า "หากเราถูกควบคุมตัว นั่นเป็นเพราะความล้มเหลวของรัฐบาลของเรา"

    ผู้เข้าร่วมที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ มีตั้งแต่นักการเมืองอย่าง ริมา ฮัสซัน และ ซเวลิเวลิเล มันเดลา ไปจนถึงศิลปินและผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชน

    ขบวนเรือซึ่งออกเดินทางจากท่าเรือต่าง ๆ ทั่วทวีปยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน รวมถึงอิตาลี สเปน กรีซ และตูนิเซีย บรรทุกความช่วยเหลือจากอิตาลีเพียงประเทศเดียวประมาณ 45 ตัน นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนเพิ่มเติมจากมาเลเซียและประเทศอื่น ๆ อีกด้วย

    หากไม่มีการขัดขวาง กองเรือดังกล่าวอาจถึงฉนวนกาซาได้ภายในสามวัน ซึ่งอาจสร้างเส้นทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแห่งใหม่ได้

    ความคิดริเริ่มนี้สร้างขึ้นจากประวัติศาสตร์ของกองเรือที่มุ่งหน้าไปยังฉนวนกาซา เช่น เหตุการณ์มาวี มาร์มารา ในปี ค.ศ. 2010 ซึ่งหน่วยคอมมานโดของอิสราเอลได้บุกโจมตีเรือต่าง ๆ ทำให้มีนักเคลื่อนไหวเสียชีวิต 10 ราย และทำให้เกิดการประณามจากทั่วโลก

    ผู้สนับสนุนจากทั่วโลกได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยได้จัดประท้วงในเมืองต่าง ๆ กว่า 70 เมืองของอิตาลี นั่งประท้วงในเมืองตูนิส และเรียกร้องให้หยุดงานทั่วไป

    รัฐมนตรีต่างประเทศและบุคคลสำคัญกว่า 12 ราย เช่น ประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร แห่งโคลอมเบีย แสดงความสนับสนุน ขณะที่สหภาพยุโรปแสดงจุดยืนแยกตัว โดยเรียกร้องให้ใช้ช่องทางความช่วยเหลือที่จัดตั้งขึ้นแล้ว

    ขณะที่กองเรือเคลื่อนเข้าสู่เขตเสี่ยงสูง ซึ่งขณะนี้มีการเฝ้าระวังสูง โดยมีรายงานว่า ตรวจพบเรือรบของอิสราเอลภายในรัศมี 50 ไมล์ ผู้จัดงานยังคงมุ่งมั่น

    ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซากำลังต่อสู้กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การทำลายล้าง และความอดอยาก คณะผู้สืบสวนของสหประชาชาติได้สรุปเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า อิสราเอลกำลังก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 66,000 คนนับตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566

    การปิดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของอิสราเอลทำให้ชาวเมืองกาซาจำนวน 2.2 ล้านคนเข้าถึงอาหาร น้ำสะอาด และยาได้น้อยลง ซึ่งเจ้าหน้าที่สหประชาชาติเตือนว่าสภาพความเป็นอยู่ของพวกเขาอาจเลวร้ายถึงขั้น "ฝันร้าย" เลยทีเดียว

ที่มา : สำนักข่าว เพรสทีวี

Copyright © 2025 SAHIBZAMAN.NET- สื่อเรียนรู้สำหรับอิสระชนคนรุ่นใหม่